ตำรวจภูธรภาค 2 จับเครือข่ายชาวจีน ส่งพัสดุสินค้าออนไลน์เก็บเงินปลายทาง

          ตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกับ ตำรวจ สภ.เมืองระยอง ทลายเครือข่ายชาวจีนส่งพัสดุสินค้าออนไลน์เก็บเงินปลายทาง ในช่วงเวลา 4 เดือน ม.ค. - เม.ย.2568 ส่งสินค้าไปทั่วประเทศกว่า 120,000 ครั้ง มูลค่าความเสียหายมากกว่า 43 ล้านบาท โดยขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการ 7 คน จับกุมได้แล้ว 6 คน เป็นชาวจีน 2 คน เป็นเจ้าของ ผู้สั่งการ รับผลประโยชน์ และคนไทยร่วมทำผิดอีก 4 คน

          พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.ภ.2 กล่าวว่า เป็นการขยายผลจากการตรวจค้นโกดังแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.ระยอง เมื่อวันที่ 19 เม.ย.2568 พบของกลางจำนวนมากและแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย 3 ราย โกดังแห่งนี้เป็นศูนย์กลางกระจายสินค้า ของกลุ่มอาชญากรส่งพัสดุสินค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าไม่มีคุณภาพไปยังประชาชนทั่วประเทศ ทั้งที่ไม่มีการสั่งซื้อจริง โดยแอบอ้างชื่อผู้รับจากฐานข้อมูลลูกค้าเดิม และใช้บริการจัดส่งแบบเก็บเงินปลายทาง โดยส่งสินค้าราคาไม่สูงอยู่ในหลักร้อยทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและชำระเงินค่าพัสดุโดยง่าย รวมความเสียหายตั้งแต่ 1 ม.ค.ถึง 19 เม.ย.2568 ส่งของสำเร็จมีผู้เสียหายยอมจ่ายเงิน รวม 12,740 ครั้ง จากการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องรวม 7 ราย ได้แก่ นายหยัง สัญชาติจีน ทำหน้าที่ผู้สั่งการ ผู้รับผลประโยชน์, นายหวัง สัญชาติจีน เป็นผู้รับผลประโยชน์, นางหยาง สัญชาติจีน เป็นผู้รับผลประโยชน์, น.ส.กรรณิกา สัญชาติไทย ทำหน้าที่เปิดสัญญาขนส่งสินค้า VIP, น.ส.อภิรญา สัญชาติไทย ทำหน้าที่เปิดสัญญาขนส่งสินค้า VIP, น.ส.วณิกรณ์ สัญชาติไทย ทำหน้าที่ควบคุมการแพ็กสินค้า และ นางเนตรนภา สัญชาติไทย ทำหน้าที่ ล่ามแปลภาษาถ่ายทอดคำสั่งของนายหยัง

          ติดตามจับผู้ต้องหาได้แล้ว 6 ราย ทั้งผู้สั่งการ ผู้รับผลประโยชน์ และผู้ร่วมขบวนการ ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ส่วน นางหยาง ขณะนี้อยู่ระหว่างการออก หมายแดง หรือ Red Notice โดยจะประสานกับหน่วยงานระหว่างประเทศเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

          ผบช.ภ.2 กล่าวย้ำว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพเปลี่ยนรูปแบบการหลอกลวงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้ช่องว่างของระบบเก็บเงินปลายทาง ทำให้ประชาชนจำนวนมากหลงเชื่อ ขอย้ำเตือนให้ตรวจสอบทุกครั้งก่อนรับพัสดุ หากไม่ได้สั่งซื้อของ อย่ารับ อย่าจ่ายเด็ดขาด และอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนร้ายไม่เกรงกลัว เพราะมูลค่าความเสียหายของเหยื่อแต่ละรายเพียงหลักร้อย ทำให้ผู้เสียหายไม่อยากแจ้งความ ทำให้อาชญากรก่อเหตุซ้ำ ๆ

...

ที่มาภาพ/ข่าว :: ตำรวจภูธรภาค 2