นายอดิศร เกิดมงคล ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ (MWG) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชาที่เกิดขึ้นและมีผลกระทบให้แรงงานกัมพูชาเดินทางกลับประเทศ แม้แรงงานส่วนใหญ่จะไม่มีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลกัมพูชาเรื่องการจัดให้แรงงานที่เดินทางกลับบ้านมีตำแหน่งงานที่เพียงพอและค่าตอบแทนที่เพียงพอต่อการยังชีพหากแต่ขณะเดียวกันแรงงานก็ไม่มีความมั่นใจที่จะอยู่ในประเทศไทยด้วยเนื่องจากขาดการสื่อสารจากรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรับรองหรือมาตรการความปลอดภัยให้แรงงาน
ปัจจุบันแรงงานกัมพูชาที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องเดินทางกลับประเทศกว่า 3 แสนคนแล้ว ยังไม่รวมแรงงานนอกระบบ และ ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีความเป็นห่วงแรงงานจะไม่เพียงพอ โดยเฉพาะภาคการเกษตรตามแนวชายแดน จึงอยากให้นัฐมนตรีช่วยแก้ไขปัญหา โดยเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ เสนอต่อกระทรวงแรงงาน 10 ข้อ เช่น กระทรวงแรงงานควรออกประกาศ และประชาสัมพันธ์ยืนยันว่าแรงงานข้ามชาติที่อยู่ในไทยจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายไทยทุกประการ ตั้งศูนย์เฉพาะกิจชายแดนที่แรงงานเดินทางออกช่วยเหลือแรงงานก่อนเดินทางกลับประเทศเพื่ออำนวยให้แรงงานข้ามชาติเข้าถึงกลไกการร้องเรียนและสิทธิตามกฎหมาย
นอกจากนี้เครือข่ายยังพบว่ามีกรณีแรงงานกัมพูชาที่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศแต่เอกสารประจำตัวอยู่ในความครอบครองของนายจ้างและหรือบริษัทจัดหางานอันเนื่องมากจากการดำเนินการทางเอกสารระหว่างประเทศ ทำให้แรงงานข้ามชาติที่ต้องการเดินทางกลับอย่างถูกต้องไม่สามารถดำเนินการได้ พิจารณาผ่อนผันให้แรงงานกัมพูชาที่นำเข้าตาม MOU ที่กำลังสิ้นสุดการได้รับอนุญาตให้ทำงานเนื่องจากทำงานครบเงื่อนไข 4 ปี ในประเทศไทยแล้ว กระทรวงแรงงานควรเร่งออกมาตรการการต่อใบอนุญาตทำงานของแรงงานกลุ่มนี้ โดยพิจารณาการขึ้นทะเบียนฝ่ายเดียวในประเทศไทยเพื่อป้องกันแรงงานหลุจากระบบอันเนื่องมาจากเงื่อนไขกระบวนการนำเข้าแรงงาน
ทั้งนี้เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ ยังเห็นด้วยกับการนำเข้าแรงงานจากประเทศศรีลังกาแทน เพราะเมื่อมีความขาดแคลนแรงงานจำเป็นที่จะต้องหาแรงงานทดแทน แต่สำคัญเร่งด่วนกว่าคือการหยุดการไหลออกของแรงงานเพื่อให้ประเทศไทยมีเวลาในการบริหารสถานการณ์และลดความลดความเสี่ยงในการขาดแคลนแรงงานฉับพลัน
#แรงงานกัมพูชา