อินเดียเดินหน้าเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ หวังให้ลดภาษีเหลือร้อยละ 15

          หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว(31 ก.ค.)เรื่องการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากอินเดียร้อยละ 25 แต่ยังไม่เป็นที่พอใจสำหรับอินเดีย ต้องการให้มีการลดภาษีเหลือร้อยละ 15 โดยอินเดียจะเดินหน้าเจรจากับสหรัฐฯต่อไป โดยคณะผู้เจรจาของสหรัฐฯจะมาเยือนกรุงนิวเดลี ปลายเดือนนี้ สอดคล้องกับเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวของสหรัฐฯที่ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่ทั้งสองฝ่ายจะเจรจาทำข้อตกลงใหม่

          ทั้งนี้ รัฐบาลอินเดียต้องการให้มีการทบทวนเพิ่มเติมในเรื่องการนำเข้าสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์นมว่า มีช่องทางที่สหรัฐฯพอจะผ่อนปรนให้กับอินเดียเพิ่มเติมอีก หรือไม่ ส่วนประเด็นเรื่องการซื้อนำมันดิบจากรัสเซีย อินเดียอาจจะลดปริมาณการสั่งซื้อน้ำมันจากรัสเซียและหันมาสั่งซื้อน้ำมันดิบจากสหรัฐฯแทน ถ้าทั้งสองฝ่ายสามารถจะตกลงกันได้ในเรื่องราคา

          ก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อินเดีย เปิดเผยว่า หลังเจรจาการค้ากับสหรัฐฯมา 5 รอบ ซึ่งในตอนแรก เจ้าหน้าที่อินเดียรู้สึกมั่นใจว่า อินเดียและสหรัฐฯจะสามารถทำข้อตกลงการค้าที่เกิดผลต่อเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่าย โดยอินเดียเชื่อว่า นายทรัมป์จะแถลงเรื่องข้อตกลงการค้ากับอินเดีย ก่อนครบกำหนดเส้นตายคือวันศุกร์ที่แล้ว(1 ส.ค.68) แต่ปรากฏว่า อินเดียประเมินสถานการณ์ผิดพลาดเนื่องจากนายทรัมป์ต้องการให้อินเดียยอมเปิดตลาดให้กว้างมากกว่านั้น นอกจากนี้ นายทรัมป์และนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียไม่ได้ต่อสายพูดคุยเรื่องนี้โดยตรง ซึ่งทีมเจรจาอินเดียยอมรับเป็นจุดผิดพลาดอีกข้อหนึ่งเช่นเดียวกัน

          ด้านนายมาร์ก ลินสก็อตต์ อดีตผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันผันตัวมาทำงานให้กับองค์กรเอกชนแห่งหนึ่งที่ส่งเสริมการค้าระหว่างอินเดียกับสหรัฐฯ กล่าวว่า ประธานาธิบดีทรัมป์และนายกรัฐมนตรีโมดีของอินเดียอาจจะต้องต่อสายโทรศัพท์พูดคุยกันโดยตรงด้วย เพื่อผลักดันเรื่องการเจรจาให้ประสบผลสำเร็จ เพื่อทำข้อตกลงการค้าแบบ win-win สำหรับทั้งสองฝ่าย

#เจรจาการค้าอินเดียสหรัฐ

ที่มา: รอยเตอร์