การที่แคนาดาประกาศรับรองรัฐปาเลสไตน์ ในขณะที่ใกล้จะถึงกำหนดเวลาสำหรับข้อตกลงการค้าของสหรัฐฯ 1 สิงหาคม 2568 ทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ แสดงความเห็นบนเครือข่ายโซเชียลมีเดีย ทรูธ โซเชียล ของเขาว่า "ว้าว! แคนาดาเพิ่งประกาศว่าจะสนับสนุนรัฐของปาเลสไตน์ นั่นจะทำให้เราทำข้อตกลงการค้ากับพวกเขาได้ยากขึ้นมาก โอ้ แคนาดา!!!" ซึ่งหมายถึงการที่แคนาดาจะต้องเผชิญกับภาษีศุลกากรร้อยละ 35 หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงภายในวันนี้
หลายประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น รวมไปถึงสหภาพยุโรป บรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ แล้ว แต่ยังมีอีกหลายประเทศรวมถึงจีนและเม็กซิโก ที่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ ทำให้ต้องถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราสูงเมื่อพ้นกำหนดเวลา
ประกาศของแคนาดาเรื่องการรับรองเอกราชของปาเลสไตน์มีขึ้นในวันพุธ (30 ก.ค.68) ถัดจากสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส ซึ่งนายกรัฐมนตรี มาร์ก คาร์นีย์ แห่งแคนาดา กล่าวว่าจะรับรองรัฐปาเลสไตน์ในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติในเดือนกันยายนนี้ โดยจะเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางแก้ปัญหาแบบสองรัฐ นั่นคือ อิสราเอลและปาเลสไตน์ที่มีความเท่าเทียมกัน การตัดสินใจนี้เป็นผลมาจากสถานการณ์ในฉนวนกาซา และมีความกังวลว่าโอกาสของรัฐปาเลสไตน์กำลังจะหายไป ซึ่งเขากล่าวด้วยว่า รัฐบาลปาเลสไตน์ ซึ่งดูแลพื้นที่บางส่วนของเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง จะต้องมีความมุ่งมั่นต่อการปฏิรูป แต่กลุ่มฮามาส ซึ่งควบคุมฉนวนกาซาในปัจจุบันจะต้องไม่มีส่วนร่วมใดๆในการปกครอง
โดยในขณะนี้ 147 ประเทศจาก 193 ประเทศสมาชิกของสหประชาชาติได้ให้การยอมรับรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการแล้ว
ด้านนายสตีฟ วิทคอฟฟ์ ทูตพิเศษสหรัฐฯ ประจำตะวันออกกลาง เดินทางถึงอิสราเอลแล้วในวันนี้ (31 ก.ค.) ซึ่งสื่ออิสราเอลรายงานว่าเขาอาจไปเยี่ยมชมศูนย์แจกจ่ายความช่วยเหลือในฉนวนกาซา ซึ่งดำเนินการโดยมูลนิธิมนุษยธรรมกาซา ท่ามกลางความไม่พอใจจากนานาชาติที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายในฉนวนกาซา
...
#ภาษีทรัมป์
#แคนาดา