ห่วงสุขภาพจิต ผู้อพยพ! สธ.เร่งดูแล -พบผู้ป่วยจิตเวชจบชีวิตตัวเอง

31 กรกฎาคม 2568, 08:28น.


          กระทรวงสาธารณสุขได้เร่งดำเนินมาตรการเฝ้าระวังและฟื้นฟูสุขภาพจิตในศูนย์พักพิงชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดเหตุสะเทือนใจ ชายวัย 65 ปี ผู้ป่วยจิตเวชที่มีประวัติรักษานานกว่า 30 ปี ผูกคอเสียชีวิตในพื้นที่ใกล้ศูนย์พักพิง อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ผู้เสียชีวิตมีชื่อในศูนย์พักพิงแต่พักอยู่กับญาติ และไม่ได้เข้ารับการรักษาหรือรับยาอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ครอบครัวระบุว่า ผู้เสียชีวิตมีอาการซึมเศร้าและแสดงความต้องการกลับบ้านบ่อยครั้ง โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่ในศูนย์พักพิงติดต่อกันเป็นวันที่ 7 ซึ่งอาจเพิ่มความเครียดสะสม เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากญาติเดินทางกลับไปดูบ้านในพื้นที่ชายแดนโดยไม่ได้พาผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งอาจทำให้เกิดความรู้สึกน้อยใจและนำไปสู่การตัดสินใจจบชีวิต



          นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากการประเมินสุขภาพจิตผู้อพยพ 20,693 คน พบผู้ที่มีภาวะเครียดสูง 600 คน และอยู่ในกลุ่มเสี่ยงฆ่าตัวตาย 142 คน ทุกคนได้รับการปฐมพยาบาลทางจิตใจและส่งต่อเข้าสู่ระบบดูแลจิตเวชของภาครัฐ โดยมีการติดตามกลุ่มเสี่ยงอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันเหตุซ้ำ นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรมฟื้นฟูจิตใจในศูนย์พักพิงเพื่อลดความเครียดและความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย



          นอกเหนือจากการดูแลสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุขยังเดินหน้าดูแลด้านการแพทย์และสาธารณสุขในพื้นที่ชายแดนอย่างเต็มที่ ปัจจุบันมีศูนย์พักพิง 705 แห่ง รองรับผู้อพยพ 186,000 คน โดยในจำนวนนี้เป็นกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ป่วยติดเตียง 35,000 คน



         สธ. ได้ระดมทีมแพทย์และสาธารณสุข 365 ทีม พร้อมรถฉุกเฉิน 129 คัน เพื่อดูแลสุขภาพกาย สุขภาพจิต ควบคุมโรคติดต่อ และจัดการสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังจัดทีมจิตอาสา 43 ทีม และทีม MERT จาก รพ.นพรัตนราชธานี ราชวิถี เลิดสิน และ ราชวิถี 2 (รังสิต) ร่วมกับมูลนิธิร่วมกตัญญู รวม 25 คน เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านจิตใจอย่างเร่งด่วน มาตรการเหล่านี้มุ่งควบคุมสถานการณ์ด้านสุขภาพในศูนย์พักพิงและป้องกันการระบาดของโรคติดต่อจากอาหาร น้ำ และระบบทางเดินหายใจ ซึ่งอาจเกิดจากการอยู่อาศัยรวมกันหนาแน่



รพ.สรรพสิทธิฯ งดรับผู้ป่วยกัมพูชา 



          โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ออกหนังสือประกาศเรื่อง ขอยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารชาวกัมพูชา และการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา ด้วย โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ทั้งผู้ป่วยไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารับการรักษาต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศและจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้



1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และ จิตอาสาภาษาต่างประเทศ

2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว

3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ ผู้ป่วยชาวกัมพูชา



4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน

ทั้งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.-10 ส.ค.2568



โฆษกรัฐบาล แถลง ไม่มีการสู้รบแนวชายแดนไทย-กัมพูชาเมื่อคืนนี้



          วันนี้ (31 ก.ค.68) เวลา 07.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงดึกของเมื่อคืนที่ผ่านมา วันพุธ 30 กรกฎาคม 68 ตั้งแต่ 21.00 น. จนถึงช่วงเช้า เวลา 07.00 น.วันนี้ ยังไม่มีรายงานเหตุการณ์รุนแรงใด ๆ ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนไทย ในทุกพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน



          ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายทหาร พลเรือน ฝ่ายปกครอง และหน่วยปฏิบัติการในพื้นที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันเหตุ อย่างต่อเนื่อง



 

ข่าวทั้งหมด

X