กระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้ออกข้อเรียกร้องให้ไทยหยุดการกระทำที่เป็นการยั่วยุและการบุกรุกดินแดนทั้งหมด พร้อมเตือนว่าการกระทำดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อข้อตกลงหยุดยิงที่มีผลบังคับใช้ระหว่างสองประเทศ ระหว่างการบรรยายสรุปภาคสนาม ให้กับนักการทูตต่างประเทศและผู้ช่วยทูตทหาร ที่กองบัญชาการกองพลเคลื่อนที่เร็วที่ 3 จ.พระวิหาร หลังจากลงพื้นที่บริเวณแอนเซส (An Ses) ที่เป็นแนวปะทะระหว่างกองกำลังสองฝ่าย พลโทรัฐ ดารารัฐ ปลัดกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้เรียกร้องให้ไทยยุติสิ่งที่เขาระบุว่าเป็นการยั่วยุและการบุกรุกดินแดนที่กำลังดำเนินอยู่ แม้ว่าข้อตกลงหยุดยิงระหว่างสองประเทศจะมีผลบังคับใช้อยู่ในปัจจุบันก็ตาม
พลโทรัฐ ดารารัฐ ได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นของกัมพูชาต่อสันติภาพและเสถียรภาพ พร้อมกับกล่าวหาฝ่ายไทยว่ายังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องที่เสี่ยงต่อการบ่อนทำลายข้อตกลงหยุดยิง “การที่ท่านมา ณ ที่นี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของเราต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค” พลโทรัฐ ดารารัฐ กล่าวผู้ช่วยทูตทหารและนักการทูตจาก 13 ประเทศ ที่ประกอบด้วยสหรัฐฯ จีน ฝรั่งเศส อังกฤษ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และมาเลเซีย รวมถึงสมาชิกอาเซียนหลายประเทศ ได้เข้าร่วมสังเกตการณ์การปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชาและไทย
ปลัดกระทรวงกลาโหมยังกล่าวว่า บันทึกความเข้าใจปี 2543 ระหว่างกัมพูชาและไทยเป็นพื้นฐานในการแก้ไขปัญหาการปักปันเขตแดนมาโดยตลอด โดยใช้มาตราส่วนแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ซึ่งสอดคล้องกับสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยาม ปี 2447 และ 2450 แต่อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดทวีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากการตัดสินใจของไทยในการใช้แผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 เพียงฝ่ายเดียว ที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างมาก
เขาอ้างถึงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลังจากไทยโจมตีสนามเพลาะโดยไม่มีการยั่วยุ และเขายังกล่าวว่า เวลาผ่านไปกว่า 36 ชั่วโมงนับตั้งแต่การหยุดยิงมีผลบังคับใช้ แต่การยั่วยุของไทยยังคงไม่ยุติ พลโทรัฐ ดารารัฐ เน้นย้ำว่ากองกำลังทหารของไทยกำลังละเมิดหลักการสำคัญของการหยุดยิง รวมทั้งหลักการที่ห้ามยึดครองตำแหน่งทางทหารใดๆ