ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งมีคำสั่งรับคำร้องของกกต. ไว้พิจารณาวินิจฉัย และมีคำสั่งให้ นางสาวเกศกมล ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลฎีกาจะมีคำพิพากษา พร้อมได้แจ้งคำสั่งดังกล่าวไปยังประธานวุฒิสภาแล้ว รวมทั้งศาลยังมีคำสั่งให้นัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 10 กันยายน 68 เวลา 14.00 น ณห้องพิจารณาคดีที่ 5 ศาลฎีกา
สืบเนื่องจากกกต.เห็นว่าการที่นางสาวเกศกมล ระบุข้อมูลแนะนำตัวของผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.3) ในส่วนของประวัติการศึกษาว่า 'ศาสตราจารย์การพัฒนาทรัพยากร มนุษย์ (Professor in Human Resource Development) California University 'และระบุประวัติการทำงาน หรือประสบการณ์ในการทำงานในกลุ่มที่สมัครว่า 'ศาสตราจารย์ ดร.แพทย์หญิง เกศกมล เปลี่ยนสมัย' นั้น ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติว่า นางสาวเกศกมล มิได้มีตำแหน่งทางวิชาการศาสตราจารย์ตามหลักการและขั้นตอนที่กำหนดไว้ในกฎหมายดังกล่าวข้างต้นของประเทศไทย
อีกทั้ง พยานที่ไต่สวนประกอบคนที่ 3-11 ซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาและเป็นผู้มีสิทธิเลือก ระดับประเทศ ให้ถ้อยคำสอดคล้องกันว่า ข้อมูลแนะนำตัวของผู้สมัคร ซึ่งระบุว่า'ศาสตราจารย์ ดร.แพทย์หญิง เกศกมล เปลี่ยนสมัย ' มีผลจูงใจให้ลงคะแนนให้แก่น.ส.เกศกมล ดังนั้น การที่น.ส.เกศกมล แนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาว่าเป็น 'ศาสตราจารย์ ดร.แพทย์หญิง เกศกมล เปลี่ยนสมัย' โดยที่มิได้ ดำรงตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์ตามกฎหมายของประเทศไทย จึงเป็นการหลอกลวง หรือจูงใจให้บุคคลอื่นเข้าใจผิด ในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของผู้ถูกร้อง เพื่อจูงใจให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิเลือก ลงคะแนนให้แก่ผู้ถูกร้อง ซึ่งเป็นการทุจริตในการเลือก และทำให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม อันเป็นการฝ่าฝืนพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 มาตรา 62 และมาตรา 77 (4)
ทั้งนี้ หากศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามที่กกต.มีมติเสนอก็จะมีโทษตาม มาตรา77 ที่บัญญัติว่า ผู้ใดกระทำการ (4)หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้บุคคลอื่น เข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือชื่อเสียงเกียรติคุณของผู้สมัครใด เพื่อจูงใจให้ผู้อื่นสมัครเข้ารับเลือก เป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือถอนการสมัคร หรือกระทำการใด ๆ อันไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ผู้นั้นหมดสิทธิ ที่จะเลือกหรือได้รับเลือก หรือเพื่อจูงใจให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปีหรือปรับตั้งแต่ 20,000 -200,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด20 ปี
#หมอเกศ
#หยุดปฎิบัติหน้าที่