หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯและนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปแถลงที่สกอตแลนด์เมื่อวันอาทิตย์(27 ก.ค.)ว่า สหรัฐฯและกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)บรรลุข้อตกลงการค้า โดยสหรัฐฯจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากกลุ่มอียูในอัตราร้อยละ 15 หลายฝ่ายเริ่มหันมาจับตาดูการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน ระหว่าง นายสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯและนายเหอ หลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรี ที่สำนักงานนายกรัฐมนตรีในกรุงสตอกโฮล์ม สวีเดน เริ่มจากเมื่อวานนี้ (28 ก.ค.) ต่อเนื่องมาวันนี้(29 ก.ค.) ที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายยังไม่แถลงคืบหน้าผลการเจรจา
แต่ที่สหรัฐฯ นายโฮเวิร์ด ลุตนิค รัฐมนตรีพาณิชย์และนายเจมีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ และสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีของสหรัฐฯในวันนี้ว่า มีแนวโน้มสูงที่ทั้งสองฝ่ายอาจจะตกลงให้ขยายเวลาพักเก็บภาษีในอัตราที่สูงเกินร้อย % ออกไปอีก 90 วัน ก่อนครบกำหนดการเจรจาในวันที่ 12 ส.ค.นี้ โดยเฉพาะนายกรีเออร์ไม่คาดว่า ทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการเจรจาในครั้งนี้ โดยนายกรีเออร์เคยทักท้วงคณะผู้แทนจีนในการประชุมที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักรในเดือนที่แล้ว ขอให้ทางการจีนเร่งอนุมัติการส่งออกแร่หายากมายังตลาดสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในหัวข้อการเจรจาในครั้งนี้ด้วย
นายกรีเออร์คาดว่า ทั้งสองฝ่ายจะตรวจสอบเรื่องคืบหน้าในการทำข้อตกลงการค้าในช่วงที่ผ่านมาว่า มีความคืบหน้ามากน้อยเพียงไร เพื่อให้แน่ใจว่า การส่งออกแร่หายากของจีนมายังตลาดสหรัฐฯดำเนินการอย่างราบรื่น ซึ่งจะเป็นรากฐานสำหรับการเจรจาในครั้งต่อๆไป และจะช่วยปรับการค้าระหว่างประเทศทั้งสองให้อยู่ในจุดที่สมดุลและเป็นธรรมกับสหรัฐฯมากขึ้น
ส่วนเรื่องท่าทีของสหรัฐฯในเรื่องมาตรการตอบโต้ทางภาษีกับทั่วโลก นายทรัมป์พูดเป็นนัยระหว่างประชุมกับนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์แห่งสหราชอาณาจักรที่สนามกอล์ฟของเขาในสกอตแลนด์เมื่อวานนี้(28 ก.ค.)ว่า สหรัฐฯอาจจะประกาศมาตรการเก็บภาษีกับทุกประเทศที่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ระหว่างร้อยละ 15-20
#เจรจาการค้าสหรัฐจีน
ที่มา: การ์เดียนนิวส์