เกาหลีเหนือส่งสัญญาณถึงทรัมป์ อย่าบีบให้ปลดนิวเคลียร์

29 กรกฎาคม 2568, 13:00น.


          คิม โยจอง น้องสาวของนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เปิดเผยผ่านสื่อ KCNA ของทางการเกาหลีเหนือในวันนี้(29 ก.ค.) เรียกร้องให้รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯยอมรับความจริงใหม่ว่า เกาหลีเหนือได้ยกระดับพัฒนาขีดความสามารถทางทหารจนกระทั่งก้าวขึ้นมาเป็นรัฐที่มีอาวุธนิวเคลียร์เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งสถานการณ์ทางด้านภูมิศาสตร์การเมืองทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก นับตั้งแต่นายคิม จองอึน และนายทรัมป์พบกัน 3 ครั้งในช่วงที่นายทรัมป์บริหารประเทศสมัยแรก พร้อมหวังว่า การเจรจาใดๆที่จะอาจจะมีขึ้นในอนาคต สหรัฐฯจะต้องไม่มุ่งกดดันเกาหลีเหนือให้ยุติโครงการนิวเคลียร์



          เธอ ยอมรับว่า ความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างนายคิม จองอึนกับนายทรัมป์เป็นเรื่องที่ดี แต่วิจารณ์ว่าการใช้ความสัมพันธ์นี้เพื่อขอให้เกาหลีเหนือยุติโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เป็นเรื่องน่าขบขัน และหากสหรัฐฯไม่ยอมรับความเป็นจริงใหม่ที่เปลี่ยนไปจากอดีต การพบกันระหว่างผู้นำของประเทศทั้งสองจะไม่เกิดขึ้นในอนาคต



          ส่วนท่าทีจากสหรัฐฯ เมื่อนักข่าวถามในประเด็นนี้ เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า นายทรัมป์ยังคงมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้บรรลุเป้าหมายเดิม คือการขอให้เกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลยีร์ ตามที่รัฐบาลทรัมป์เคยประชุมกับนายคิม จองอึน 3 ครั้งในช่วงที่นายทรัมป์บริหารประเทศสมัยแรก ระบุว่าประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงยึดโยงอยู่กับยึดเป้าหมายต่างๆเหล่านี้ พร้อมทั้งยังเปิดกว้างที่จะเจรจากับนายคิม จองอึน เพื่อผลักดันให้เกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างเต็มรูปแบบ



          ทั้งนี้ การประชุมซัมมิตครั้งแรกในสิงคโปร์ในปี 2561 นายทรัมป์และนายคิม จองอึน เคยประชุมซัมมิต ได้ลงนามในข้อตกลงฉบับหนึ่ง เห็นชอบหลักการทำให้คาบสมุทรเกาหลีเป็นเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ แต่การประชุมซัมมิตนัดที่ 2 ในกรุงฮานอยในปี 2662 ล่มเหลวเนื่องจากทั้งสองฝ่ายมีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องแนวทางการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ แลกกับการยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์



          ที่ผ่านมา นายทรัมป์กล่าวว่าตนเองมีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับนายคิม จองอึน และทำเนียบขาวเคยระบุก่อนหน้านี้ว่า นายทรัมป์พร้อมพิจารณาแนวคิดการติดต่อสื่อสารกับผู้นำเกาหลีเหนือ หลังกลับมาบริหารประเทศสหรัฐฯสมัยที่ 2



#เกาหลีเหนือ



#การปลดนิวเคลียร์



ที่มา: รอยเตอร์

ข่าวทั้งหมด

X