สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ 7 จังหวัดตั้งแต่หลังเที่ยงคืนวันนี้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงการติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชากล่าวว่า รัฐบาลได้รับรายงานว่า กัมพูชายังละเมิดข้อตกลงหยุดยิงในหลายพื้นที่ รัฐบาลไทยจะทำเอกสารส่งไปให้กับประเทศผู้สังเกตการณ์ ว่ากัมพูชายังละเมิดข้อตกลง ด้วยการยิงหลังเที่ยงคืน ในรูปแบบไหน และอย่างไร ขณะที่พบว่าสื่อกัมพูชานำเสนอข่าวที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยระบุว่ากองทัพกัมพูชาได้หยุดยิงแล้ว แต่ก็เป็นสิทธิที่กัมพูชาจะชี้แจง แต่กองทัพไทยยืนยันว่าจะยังตรึงกำลังเพื่อรักษาอธิปไตยอย่างต่อเนื่อง
ส่วนการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ได้รับทราบรายงานความคืบหน้าการปฏิบัติภารกิจของกองทัพ และล่าสุด ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ย้ำใน 4 ประเด็นสำคัญ ดังนี้
1. ให้กองทัพรักษาอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนอย่างเต็มที่
2. ย้ำเรื่องการเรียกเอกอัครราชทูตไทยในกัมพูชากลับประเทศ และส่งกลับเอกอัครราชทูตกัมพูชากลับประเทศ ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้ว
3. ให้กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบตามแนวชายแดน ส่วนการจะอพยพประชาชนกลับบ้านเรือนนั้น ขอให้รอ ศบ.ทก. ตรวจสอบสถานการณ์ให้เรียบร้อยก่อนหลังจากลงพื้นที่ในวันนี้
4. ให้ ศบ.ทก. ประชุมต่อเนื่อง โดยหากมีสถานการณ์เร่งด่วน สามารถชี้แจงกับประชาชนได้ทันที
อย่างไรก็ดี จากการเป็นตัวกลางเจรจาของนายอันวาร์ อิบราฮิม ประธานอาเซียนนั้น ไทยขอยืนยันว่าสันติภาพและเสรีภาพ ย่อมจะเกิดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งหลังจากช่วงบ่ายที่ไทยจะส่งหนังสือประท้วงไปใหักับประเทศผู้สังเกตการณ์แล้ว ก็จะมีการนำรายละเอียดเข้าสู่การหารือของที่ประชุม ครม. และศบ.ทก. ต่อไป
#เขมรละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด