ไทยประท้วงเขมร ละเมิดสิทธิมนุษยธรรมร้ายแรงขัดอนุสัญญาเจนีวา ปมโจมตีโรงพยาบาล

26 กรกฎาคม 2568, 19:03น.


กระทรวงการต่างประเทศออกแถลงการณ์ ประณามกัมพูชา ปฏิบัติการโจมตีฐานทัพทหารไทย ที่ปราสาทตามเมือนธม เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 08.20 น. กอ ทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บทันทีจำนวนสองนาย หลังจากนั้นไม่นาน ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีอย่างไม่เลือกเป้าหมายในดินแดนไทยใน 4 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี



          เมื่อเวลาประมาณ 11.54 น. ของวันเดียวกัน โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดสุรินทร์ ถูกโจมตีด้วยการยิงปืนใหญ่ของฝ่ายกัมพูชา การกระทำที่รุนแรง ไม่เลือกเป้าหมาย และละเมิดกฎหมายต่อพลเรือนไทยเหล่านี้ ส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงและนำไปสู่การสูญเสียชีวิตของพลเรือนผู้บริสุทธิ์อย่างน่าเศร้าใจ ซึ่งรวมถึงสตรีและเด็ก สถานที่ของพลเรือน โดยเฉพาะโรงพยาบาลและโรงเรียน ก็ได้รับความเสียหายอย่างมากเช่นกัน ทั้งนี้ ณ เวลา 14.00 น. ของวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 การโจมตีดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตที่เป็นพลเรือน 13 ราย และบาดเจ็บ 46 ราย



          ยิ่งไปกว่านั้น การโจมตีบุคคลพลเรือน สถานที่ของพลเรือน และสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะอย่างไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานพยาบาล ถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาเจนีวา ค.ศ. 1949 อย่างชัดเจนและร้ายแรง ทั้งยังเป็นการละเมิดข้อ 19 ของอนุสัญญาเจนีวาฉบับที่หนึ่ง (การคุ้มครองหน่วยแพทย์และสถานพยาบาล) และข้อ 18 ของอนุสัญญาเจนีวาฉบับที่สี่ (การคุ้มครองโรงพยาบาลฝ่ายพลเรือน) ประเทศไทยขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำอันไร้มนุษยธรรมเช่นนี้ ซึ่งขัดต่อพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาเจนีวาอย่างชัดเจน



          รัฐบาลไทยจะมีหนังสือถึงประธานคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) เพื่อแสดงการประณามอย่างรุนแรงต่อการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรงเหล่านี้ เป็นลายลักษณ์อักษร



          มีรายงานว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามในหนังสือเพื่อส่งถึง ดร.เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) กรณีกัมพูชาละเมิดอนุสัญญาเจนีวาฉบับที่ 4 ค.ศ.1949 ข้อ 18 และ 20 โดยโจมตีที่ส่งผลให้พลเรือนไทยเสียชีวิต 13 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วย มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 32 ราย และสร้างความเสียหายแก่สถานพยาบาลและพื้นที่โดยรอบภายในดินแดนของไทย การกระทำดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกและความทุกข์ใจอย่างใหญ่หลวง



          นอกจากนั้น ยังเรียกร้องให้องค์การอนามัยโลกดำเนินการ 3 เรื่อง คือ 1.รับรองและบันทึกเหตุการณ์นี้รวมถึงผลกระทบในวงกว้างต่อการปกป้องบริการด้านสาธารณสุขในพื้นที่ชายแดนที่เปราะบาง 2.ส่งเสริมสารทั่วโลกที่เรียกร้องให้มีการเคารพและคุ้มครองโรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ตลอดเวลา รวมถึงในช่วงเวลาแห่งความขัดแย้งหรือความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้น และ 3.อำนวยความสะดวกในการประสานความร่วมมือกับภาคีที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นอีก และเพื่อรับประกันความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย และโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุข



          โดย ไทยขอยืนยันอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ต่อหลักนิติธรรมระหว่างประเทศและหลักการพื้นฐานว่าด้วยการคุ้มครองทางมนุษยธรรม เราให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อบทบาทผู้นำขององค์การอนามัยโลกในการธำรงไว้ซึ่งความสมบูรณ์ของระบบสาธารณสุขในทุกสถานการณ์ และเชื่อมั่นว่าข้อกังวลของเราจะได้รับการพิจารณาอย่างสมเหตุสมผล



 



 



#ประท้วงเขมร



#ละเมิดมนุษยธรรม



#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด

ข่าวทั้งหมด

X