พลตรีปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุว่า เนื่องจาก สถานการณ์ความตึงเครียดด้านชายแดนไทย-กัมพูชา ในปัจจุบันส่งผลกระทบต่อชีวิตและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 2 จังหวัด
กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด จึงใช้อำนาจตาม พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ.2457 ประกาศกฎอัยการศึกเพิ่มเติมในพื้นที่บางอำเภอ ซึ่งเป็นพื้นที่ตอนในของ จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารได้มีอำนาจตามกฎหมายในการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และดำเนินการบริหารจัดการกิจกรรมบางอย่าง เช่น การเตรียมพื้นที่ปลอดภัยให้กับประชาชน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ เช่นเดียวกับในพื้นที่ที่ประกาศกฎอัยการศึก
ก่อนหน้านี้ พล.ร.ท.อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ได้ออก ประกาศของกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เรื่องให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ มีรายละเอียดดังนี้คือ
"ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๙ ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน พุทธศักราช 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม พุทธศักราช 2550 นั้น
โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคนเพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสองของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา๔ แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้
"ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี อำเภอท่าใหม่ อำเภอมะขาม อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอแก่งหางแมว อำเภอนายายอาม และอำเภอเขาคิชฌกูฏ
"ข้อ 2 จังหวัดตราด อำเภอเขาสมิง ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ.2568"
#เขมรรุกรานไทย
#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด