ราคาน้ำมันขยับขึ้น หลังญี่ปุ่น-สหรัฐฯบรรลุข้อตกลงการค้า

          นักวิเคราะห์ เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกขยับตัวขึ้นมาในช่วงแรกๆของการซื้อขายในวันนี้(23 ก.ค.) หลังร่วงมา 3 วันติดต่อกัน โดยการปรับขึ้นของราคาน้ำมันในครั้งนี้สืบเนื่องจากความสำเร็จในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับญี่ปุ่น หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯประกาศเมื่อวานนี้(22 ก.ค.)ว่า สหรัฐฯและญี่ปุ่นบรรลุข้อตกลงการค้า โดยสหรัฐฯจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นร้อยละ 15 นอกจากนี้ ญี่ปุ่นตกลงจะลงทุนรวมมูลค่า 550,000 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ

          ส่วนปัจจัยบวกอื่นๆเช่น ผลสำรวจความเห็นจากนักวิเคราะห์ 9 คน สำรวจโดยรอยเตอร์เมื่อวานนี้(22 ก.ค.) แสดงให้เห็นว่า ปริมาณน้ำมันดิบในคลังน้ำมันของสหรัฐฯ ลดลงราว 1.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อน บ่งชี้ว่า ความต้องการซื้อน้ำมันจะเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนั้น การที่นายคริส ไรท์ รัฐมนตรีพลังงานสหรัฐฯระบุเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐฯเตรียมพิจารณาคว่ำบาตรธุรกิจน้ำมันรัสเซีย หวังกดดันรัสเซียให้ยุติสงครามในยูเครน เป็นปัจจัยบวกอีกข้อหนึ่งต่อทิศทางของราคาน้ำมันเช่นกัน

          ก่อนหน้านี้ กลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ลงมติเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว(18 ก.ค.) เรื่องการคว่ำบาตรรัสเซียครั้งที่ 18  พร้อมปรับลดอัตรารับซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซียจาก 60 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ราว 45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งต่ำกว่าราคาตลาด เพื่อจำกัดรายได้จากการขายน้ำมันของรัสเซีย หลังกดดันรัสเซียให้ยอมเจรจาสันติภาพกับยูเครน แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า การที่สหรัฐฯไม่ร่วมคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม จะทำให้การบังคับมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียโดยกลุ่มอียูทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพเท่าที่ควร

          ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 33 เซนต์ หรือร้อยละ 0.48 มาอยู่ที่ 68.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงแรกของการซื้อขายในวันนี้(23 ก.ค.) ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ขยับขึ้น 33 เซนต์ หรือ ร้อยละ 0.51 อยู่ที่ 65.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

#ราคาน้ำมันดิบ

#ผลเจรจาการค้าสหรัฐญี่ปุ่น

ที่มา : รอยเตอร์