คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงภาคธุรกิจเอกชนในการหามาตรการ หยุดการใช้ยาในทางที่ผิด โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเยาวชนและคุมเข้มการจัดจำหน่ายยา ร้านขายยาทั้งหมด นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. เป็นประธานแถลงมาตรการคุมเข้ม หยุดใช้ยาในทางที่ผิด โดยมีการระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการอาการและยาหรือ อย. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สถาบันการศึกษาและสมาคมร้านขายยา เข้าร่วม
นายเพิ่มพงษ์ บอกว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดการใช้ยาในทางที่ผิด พบพฤติกรรมการใช้ยารักษาอาการป่วยทั่วไปมาดัดแปลงเป็นสารกระตุ้นประสาทโดยนำยาในกลุ่มยาแก้แพ้ ยาแก้ปวดและยาแก้ไอมาผสมกับเครื่องดื่มเพื่อให้ออกฤทธิ์มึนเมา และกระตุ้นให้รู้สึกสนุกสนานซึ่งปัจจุบันกำลังเป็นที่แพร่ระบาดในกลุ่มนักเรียนระดับมัธยม โดยมาตรการควบคุมนั้น จะยกระดับยารักษาโรคที่มีเด็กและเยาวชนนำไปใช้ในทางที่ผิดขึ้นเป็นตัวยาที่ต้องมีการควบคุม โดยจะอนุญาตให้จำหน่ายเฉพาะร้านขายยาคุณภาพ ที่ผ่านเกณฑ์การตรวจสอบมาตรฐานของ อย. เท่านั้น ส่วนการเผยแพร่การเสพยาเสพติด ผ่านทางโซเชัยลมิเดีย ทาง ป.ป.ส. จะหารือ กับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และจะทาบทามกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้เข้ามาร่วมหามาตรการในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ด้วย
นายประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการอย. กล่าวว่า ยาทั้ง 2 ชนิด ยังคงต้องให้มีบริการในร้านขายยาแผนปัจจุบัน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ในการรักษาโรคขั้นพื้นฐาน อย่างไรก็ตาม อย. มีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านขายยาอย่างต่อเนื่อง หากพบว่ามีการซื้อขายยาในทางที่ผิด นอกจากจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายแล้วก็จะถูกพักใช้ใบอนุญาตเป็นเวลา 120 วัน และตั้งแต่ปี 2558 - ปัจจุบัน มีร้านขายยาที่กระทำผิดกฎหมายถูกพักใช้ใบอนุญาตไปแล้วกว่า 40 ร้าน หากผู้ใดต้องการแจ้งเบาะแสร้านขายยาที่มีพฤติกรรมขายยาในทางที่ผิดสามารถแจ้งมาที่สายด่วน อย. 1556
นายปริญญา อัครจันทโชติ นายกสมาคมร้านขายยา บอกว่า ปัจจุบันมีการจัดระเบียบเข้มงวดกับร้านขายยามากขึ้น จึงทำให้ร้านขายยาบางร้านตัดปัญหาโดยการไม่ขายให้กับลูกค้า และได้จัดทำสติกเกอร์ ร้านนี้เข้าร่วมโครงการรณรงค์ไม่ขายยาในทางที่ผิด ขึ้นเพื่อจัดการคัดแยกร้านที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการขายยาผิด และสำหรับร้านที่เข้าข่ายการกระทำผิดก็จะตรวจสอบหากพบว่ามีการซื้อขายในทางที่ผิด นอกจากจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายแล้วจะถูกพักใช้ใบอนุญาตเป็นเวลา 120 วัน ซึ่งปัจจุบันมีร้านขายยาที่ถูกพักใช้ใบอนุญาตไปแล้วกว่า 40 ร้าน
ด้านการปราบปราม พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล บอกว่าหากพบว่ามีการมั่วสุมกันในกลุ่มเด็กเยาวชน จะต้องมีมาตรการเรียกผู้ปกครอง แจ้งให้อาจารย์ทราบ และต้องมีการสืบสวนแหล่งที่มาของการซื้อขายยา ตลอดจนตรวจสอบตามกล้องวงจรปิด รวมถึงสถานศึกษาขณะนี้ก็ได้ส่งหนังสือไปยังโรงเรียนต่างๆ ให้เฝ้าระวังพฤติกรรมเด็กนักเรียนที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงรวมถึงการให้ความรู้โทษของการใช้ยาในทางที่ผิด