สถานการณ์พายุโซนร้อนวิภาถล่มเวียดนาม ซึ่งทางการเวียดนามได้เตรียมกำลังทหาร 350,000 นายเพื่อลงพื้นที่ไปช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัย หลังจากพายุขึ้นฝั่ง ระหว่างจังหวัดฮุงเอียน กับจังหวัดนิญบิ่ญ ทางภาคเหนือของเวียดนาม เมื่อเวลา 10.00น.ของวันนี้(22 ก.ค.) ด้วยความแรงลมสูงสุด 138 กม.ต่อชม.เบื้องต้นไม่มีรายงานเรื่องการเสียชีวิต
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของเวียดนาม รายงานว่า พายุได้เคลื่อนตัวมุ่งหน้าไปทางตะวันตกเฉียงใต้ด้วยความเร็วระหว่าง 10-15 กม.พร้อมทั้งลดความแรงลมมาอยู่ที่ 74 กม.ต่อชม.เมื่อเวลา 11.00น.ของวันนี้(22 ก.ค.) ขณะเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงใต้ มุ่งหน้ายังจังหวัดทัญฮว้า ก่อนที่พายุจะเริ่มอ่อนความแรงลมเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในช่วงที่พัดเข้าสู่ประเทศลาวในคืนนี้ แต่ผลกระทบจากพายุที่มีต่อเวียดนามคือ มีฝนตกหนักมากกว่า 300 มม.ในพื้นที่ภาคกลางตอนบนของเวียดนามจากวันนี้(22 ก.ค.)ไปจนถึงวันพรุ่งนี้(23 ก.ค.) และมีน้ำท่วมในบางพื้นที่
ที่หมู่บ้านฮวงเตียน (Hoang Tien) ใกล้ชายฝั่ง ลมแรงและฝนตกหนักทำให้หลังคาของบ้านเรือนหลายหลังที่มุงด้วยสังกะสีได้รับความเสียหาย ขณะเดียวกัน ถนนหลายแห่งถูกน้ำท่วมในเมืองทัญฮว้า และย่านชุมชนในพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยพื้นที่บางแห่งมีน้ำท่วม 70-80 ซม.นอกจากนี้ ความแรงของพายุ ทำให้เสาไฟฟ้าและต้นไม้หักโค่น ทำให้ไฟฟ้าดับในบางท้องที่ของจังหวัดฮุงเอียน ชาวบ้านแห่ไปยังปั๊มน้ำมัน เพื่อซื้อน้ำมันมาใช้ปั่นกระแสไฟฟ้าใช้ในยามค่ำคืน
ขณะเดียวกัน สำนักงานการบินพลเรือนของเวียดนามเปิดเผยว่า สนามบินนานาชาติวันเดอน (Vân Đồn International Airport)ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองวันเดอน จังหวัดกว่างนินห์และสนามบินนานาชาติก๊าตบีในเมืองไฮฟอง เริ่มกลับมาเปิดบริการเที่ยวบินตามปกติตั้งแต่เวลา 12.00น.ของวันนี้(22 ก.ค.) พร้อมกำชับให้ผู้บริหารสนามบินทั้งสองแห่งทำตามกฎระเบียบโดยเคร่งครัดเรื่องการให้บริการบินท่ามกลางสภาพอากาศแปรปรวน เช่น ให้ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสภาพอากาศจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของเวียดนามและให้ปรับการบริการเที่ยวบินให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อให้แน่ใจว่าเกิดความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสารและลูกเรือ ก่อนหน้านี้ สนามบินทั้งสองถูกปิดตั้งแต่เวลา 23.00น.ของวานนี้(21 ก.ค.)จนถึงเวลา 12.00น.ของวันนี้(22 ก.ค.)เนื่องจากสถานการณ์เกี่ยวกับพายุวิภา
#พายุวิภา
ที่มา: วีเอ็นเอ็กซ์เพรส, รอยเตอร์