+++สภาพอากาศโดยรวมทั่วประเทศยังแห้งแล้งแม้จะมีฝนตกลงมาอยู่บ้างก็ตาม โดยเฉพาะในภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง แต่กลับยังไม่สามารถเติมน้ำในเขื่อนใหญ่ได้ตามเป้าหมาย ขณะที่สภาพอากาศในภาคใต้ มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ภาคอุตสาหกรรม นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่าอุตสาห กรรมแปรรูปสินค้าเกษตรบางชนิดได้รับผล กระทบจากภัยแล้งบ้างแล้ว เช่น โรงงานน้ำตาลที่อาจมีปริมาณอ้อยเข้าหีบน้อยลง โรงงานแปรรูปผักผลไม้ โรงงานน้ำมันปาล์ม อาจทำ ให้ปริมาณการผลิตลดลง แต่กระบวนการผลิตโดยรวม ยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงมากนัก ผู้ประกอบการระมัดระวัง ในการรับคำสั่งซื้อสินค้า เพื่อให้มีผลผลิตส่ง ให้กับลูกค้าอย่างเพียงพอ
+++นางอรรชกา ศรีบุญเรือง ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ได้สั่งการให้อุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ, การนิคมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และกรมโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งดูแลสวนอุตสาหกรรม ตรวจสอบผล กระทบภัยแล้งของผู้ประกอบการโรงงานทั่วประเทศกว่า 80,000 แห่ง ว่าแต่ละพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างไรและต้องการความช่วยเหลืออย่างไรบ้าง
+++สถานการณ์ฟองสบู่ในตลาดหุ้นจีนยังไม่สงบทำให้ธนาคารกลางจีน (พีบีโอซี) และคณะกรรมการกำกับดูแลการประกันภัยจีน (ซีไออาร์ซี) ยังคงออกมาตรการลดความร้อนแรง คณะกรรมการสินทรัพย์ของจีนได้สั่งให้บริษัทที่มีรัฐบาลเป็นเจ้าของไม่ให้ขายหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียน นอกจากนี้ พีบีโอซีจะเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาดหุ้นผ่านการอัดฉีดเข้าสู่บรรษัทสินเชื่อเพื่อธุรกิจหลักทรัพย์แห่งจีน มูลค่าอย่างต่ำ 5 แสนล้าน (ราว 2.5 ล้านล้านบาท) ซีไออาร์ซีก็ออกมาตรการเช่นเดียวกัน ตลาดหุ้นจีนยังคงปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงและต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว แม้ 21 บริษัทโบรกเกอร์ของจีนก็ได้ร่วมกันตั้งกองทุนพยุงหุ้น วงเงิน 1.2 แสนล้านหยวน (ราว 6 แสนล้านบาท) ดัชนียังร่วงลงต่อเนื่อง
+++นายเติง เก๋อ โฆษกคณะกรรมการกฎระเบียบหลักทรัพย์จีน กล่าวว่าการแตกตื่นของนักลงทุนและการเทขายอย่างหนัก เป็นสาเหตุให้ตลาดหุ้นร่วงลง นักวิเคราะห์กล่าวว่า การปรับฐานอย่างหนักของตลาดหุ้น เป็นผลมาจากการออกกฎครั้งใหม่เกี่ยวกับการทำมาร์จิน ประกอบกับความวิตกเกี่ยวกับมูลค่าหุ้นที่ทะยานขึ้นมากเกินไป และการที่บริษัทเกือบครึ่งหนึ่งในตลาดระงับการซื้อขายไป ทำให้นักลงทุนซึ่งส่วนใหญ่เป็นเทรดเดอร์รายย่อย พากันเทขาย หลายฝ่ายวิตกว่าการทรุดตัวของตลาดหุ้น จะลามไปถึงเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งกำลังชะลอตัว
+++ตลาดหุ้นไทยนักลงทุนสถาบันและต่างชาติเทขายทำกำไรในหุ้นขนาดใหญ่ ปิดตลาดที่ 1,470.25 จุด ลดลง 13.52 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเพียง 37,627.41 ล้านบาท นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลได้ติดตามจับตาสถานการณ์เศรษฐกิจของจีนที่ อยู่ในภาวะชะลอตัวอย่างใกล้ชิด เนื่องจากไทยส่งออกไปจีนในสัดส่วนที่สูง ส่วนฟองสบู่ตลาดหุ้นจีนไม่ ส่งผลกระทบอะไรมากนัก กองทุนรวมของไทยไปลงทุนในจีนไม่มาก
+++นายอรุณ จิรชวาลา กรรมการ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า เศรษฐกิจจีนยังไม่เข้าขั้นวิกฤต ส่วนตลาดหุ้นที่เกิดฟองสบู่ก็ไม่ได้กระทบกับต่างชาติและค่าเงินสกุลอื่นให้ผันผวน นักลงทุนจีนเล่นเก็งกำไรกันเอง ขนาดของเศรษฐกิจจีนใหญ่และมีทุนสำรองสูงมาก และเชื่อว่ารัฐบาลจีนจะรักษาค่าเงินไม่ให้ผันผวนให้เงินหยวนอยู่ในระดับที่แข่งขันได้
+++นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบีโอเอสเค (ประเทศไทย) กล่าวว่า การลดดอกเบี้ยของจีน 3 ครั้งในรอบ 6 เดือนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้นักลงทุนเกิดความคาดหวังการฟื้นตัว แต่ในช่วงหลังเศรษฐกิจจีนกลับถดถอย สวนทางตลาดหุ้นที่ปรับตัวสูงมานานกว่า 1 ปี ดังนั้นจึงเกิดภาวการณ์ควบคุมที่ลำบาก
+++นายตรรก บุนนาค ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านโกลบอลมาร์เกตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวถึง ค่าเงินบาทที่ทะลุ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ได้มีผู้ส่งออกขายดอลลาร์สหรัฐฯ ออกมา เพื่อปิดความเสี่ยง แต่ค่าเงินในสัปดาห์นี้มีความไม่แน่นอนสูง ปัจจัยในเรื่องของกรีซและยุโรปต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
+++ ด้านนายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวยอมรับว่า จะส่งผลต่อจิตวิทยานักลงทุนอยู่บ้าง แต่ภาพรวมแล้ว ยังไม่มีผลกระทบต่อตลาดเงินโลกมากนัก ธปท. ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด การลงทุนของนักลงทุนไทยในจีน ส่วนใหญ่ไม่ได้ลงทุนในตลาดหุ้นจีนโดยตรง แต่เป็นการลงทุนผ่านกองทุนรวมที่ไปลงทุนในต่างประเทศ(FIF) +++สำหรับผลต่อเศรษฐกิจจีนล่าสุดยังไม่เห็นผลกระทบที่ชัดเจน แต่หากตลาดหุ้นจีนยังคงปรับลดลงต่อเนื่อง อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจผ่านความเชื่อมั่นของภาคเอกชนที่ลดลง และความมั่งคั่งของภาคครัวเรือนปรับลดลง ทั้งจากเงินออมและมูลค่าทรัพย์สิน ซึ่งจะกระทบต่อการบริโภคของภาคครัวเรือนในระยะต่อไป
+++นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ภัทร กล่าวว่า ประเด็นที่ต้องติดตาม คือ ความมั่งคั่งของคนที่หายไปจากการลงทุนในตลาดหุ้นจีน จะมีผลต่อการบริโภคภายและการใช้จ่ายของคนจีน ซึ่งตรงนี้อาจส่งผลต่อการส่งออกและการท่องเที่ยวของไทย
+++ปัจจัยดังกล่าว ทำให้ราคาน้ำมันตลาดสหรัฐฯ ปรับลดเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน หลังพบสต๊อกเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 68 เซนต์ ปิดที่ 51.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ลอนดอนปิดบวกในกรอบแคบๆ จากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ ปิดที่ 57.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
+++ราคาทองคำ ปิดบวกอย่างแรง ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดรอบเกือบ 4 เดือน หนึ่งวันก่อนหน้านี้ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 10.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,163.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
+++เมื่อวานนี้ ศาลจังหวัดเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นัดสืบพยานฝ่ายโจทก์คดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษเสียชีวิตบนเกาะเต่า เมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา นัดแรก โดยได้เบิกตัวผู้ต้องขังชาวเมียนมาร์ 2 คน ที่ตกเป็นผู้ต้องหา นำตัวมาฟังคำสืบพยานฝ่ายโจทก์ การไต่สวนสืบพยานฝ่ายโจทย์ปากแรกเป็นนายตำรวจที่เข้าเวรรับผิดชอบคดีวันเกิดเหตุ ศาลเปิดโอกาสให้ทนายฝ่ายจำเลยซักถาม และไต่สวนนานกว่า 2 ชม. ก่อนเริ่มสืบพยานฝ่ายโจทก์ปากที่ 2 ช่วงบ่ายวานนี้
+++นายนคร ชมภูชาติ ทนายความฝ่ายจำเลยจากสภาทนายความ เปิดเผยว่าศาลจังหวัดเกาะสมุยได้วินิจฉัยในเรื่องที่ทีมทนายของฝ่ายจำเลยร้องขอต่อศาลเพื่อให้ศาลอนุญาตทำการตรวจพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่นำมายื่นต่อศาล ไม่ว่าจะเป็นพยานวัตถุที่พบในที่เกิดเหตุ และผลการตรวจดีเอ็นเอที่ระบุว่าพบในที่เกิดเหตุ ซึ่งตรงกับดีเอ็นเอของผู้ต้องหาทั้ง 2 คนซ้ำอีกครั้ง เบื้องต้นศาลจะหารือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับพยานหลักฐานใหม่อีกครั้งว่าจะอนุญาตให้มีการตรวจสอบหลักฐาน ตามที่ทนายฝ่ายจำเลยร้องขอได้หรือไม่โดยจะสรุปในวันนี้