เปิดคำแถลง CIB เปิดปฏิบัติการ‘นารีพิฆาตพระ’ ‘สีกากอล์ฟ’ เสพเสพเมถุนกับพระ 9 รูป

วันนี้, 07:20น.


          วันที่ 15 ก.ค.2568 เวลา 16.30 น. ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. , พลตำรวจตรี ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. , นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) , พันตำรวจโท สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงปฏิบัติการ “นารีพิฆาตพระ” ผลการจับกุม “สีกากอล์ฟ”



           เบื้องต้น ในรายละเอียดจากเอกสาร เปิดเผยถึงพฤติการณ์ ว่า นายสุรชัยฯ ผู้กล่าวหา ได้รับมอบอำนาจจากวัดชูจิตธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา พระเทพวชิรกิตติ (กิตติชัย จันทร์วิเศษ) ในฐานะผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส ให้ร้องทุกข์กล่าวโทษพระเทพพัชราภรณ์ หรือ นายสมพงษ์ฯ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม และบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง กรณีจากการสืบสวนทราบว่า น.ส.วิลาวัลย์ฯ หรือสีกากอล์ฟ รับโอนเงินจากพระเทพพัชราภรณ์ หรือนายสมพงษ์ฯ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าพนักงานตำรวจ กก.2 บก.ปปป. ได้ทำการสืบสวนบันทึนทึกถ้อยคำพระเทพพัชราภรณ์ หรือนายสมพงษ์ฯ ปรากฎข้อเท็จจริงว่า เมื่อวันที่ 16 ก.พ.67 มีการถอนเงินจากบัญชีวัดชูจิตธรรมาราม จำนวน 380,000 บาท แล้วนำเงินจำนจำนวนดังกล่าวฝากเข้าบัญชีธนาคารชื่อบัญชีพระเทพพัชราภรณ์



          จากนั้นในวันเดียวกัน ได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวต่อไปยังบัญชีธนาคารชื่อบัญชี น.ส.วิลาวัลย์ฯ โดย น.ส.วิลาวัลย์ฯ หรือสีกากอล์ฟ รู้ว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินของวัดชูจิตธรรมาราม แต่ยังแจ้งให้เจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมารามโอนเงินให้



          พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานและแจ้งข้อกล่าวหาพระเทพชราภรณ์ หรือนายสมพงษ์ฯ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม ซึ่งเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนแล้ว และขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ น.ส.วิลาวัลย์ฯ หรือสีกากอล์ฟ



          กระทั่งต่อมา วันที่ 15 ก.ค.68) เจ้าได้สนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา



          ขณะที่ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวว่า กองบังคับการปราบปราม รับผิดชอบคดีที่เกี่ยวข้องกับ ‘สีกากอล์ฟ’ 2 เรื่อง คือ เรื่องแรก 13 ก.ค. 2568 นายสมศักดิ์ สะมะโม อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.พิจิตร มาร้องทุกข์ดำเนินคดีกับสีกากอล์ฟ ข้อหาฉ้อโกง



          โดยเหตุการณ์เริ่มตั้งแต่ ปี2561 อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.พิจิตร มีเรื่องราวร้องเรียน เกี่ยวกับเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เสพเมถุนกับสีกากอล์ฟ และการประพฤติมิชอบเรื่องเงินตั้งแต่ปี 2559 แล้วเรื่องยังไม่มีการดำเนินการให้เรียบร้อย อดีต ผอ.สำนักพุทธจังหวัดพิจิตร ก็ได้ทำหนังสือขอตรวจสอบไปยังเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร แต่ปรากฎว่า เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ได้ทำหนังสือร้องเรียนกลับไป จนนายสมศักดิ์ ถูกย้ายไปที่อื่น จนเกษียณอายุราชการปี2564



          จากนั้น อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ จ.พิจิตร ก็มีการสืบสวน และในปี 2565 เกี่ยวข้องกับกันการเสพเมถุนประพฤติมิชอบ และการทุจริตเรื่องเงิน เพราะสำนักงานพระพุทธศาสนายังไม่ได้ดำเนินการ และพยายามจะหาข้อมูลจากสีกากอล์ฟ จนได้เบอร์สีกากอล์ฟมา และสีกากอล์ฟ ยืนยันว่ามีข้อมูลมีหลักฐาน มีคลิป ที่เกี่ยวพันกันจริงกับเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร แต่ตอนนั้นสีกากอล์ฟยังไม่ยอมให้หลักฐาน



          กระทั่งปี 2566 สีกากอล์ฟ ก็ติดต่อกลับไปยัง นายสมศักดิ์ อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.พิจิตร คนนี้ แล้วอ้างว่าป่วยหนัก ต้องผ่าตัด และขอยืมเงิน 4 แสนบาทมาใช้ แต่ในแชทไลน์มีการพูดคุยกันในลักษณะ ถ้าไม่ให้เงินก็ไม่ให้ข้อมูล ซึ่ง นายสมศักดิ์ ก็อยากได้ข้อมูลที่จะเอามาดำเนินการ และเห็นว่าเป็นข้อมูลสำคัญจึงโอนเงินให้ 4 แสนบาท แต่วันรุ่งขึ้นสีกากอล์ฟก็ทักไลน์มาขออีก 50,000 บาท โดยอ้างว่า เงินไม่พอเพราะถูกบัตรเครดิตตัดไปทำให้ไม่พอจ่ายค่าผ่าตัด แต่ อดีตผอ.สำนักพุทธฯ ไม่ได้ให้เงินไป แล้วสีกากอล์ฟ ก็หายไป จนมาทราบภายหลังว่า สีกากอล์ฟ ไม่ได้ผ่าตัดจริง และไม่ได้มีข้อมูลที่จะให้จริง จึงถือเป็นเรื่องของการฉ้อโกง



          ส่วนเรื่องที่สองคือ วันที่ 13 ก.ค.2568 ทิดแหล่ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร มาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับสีกากอล์ฟ ฐานรีดเอาทรัพย์ และทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ  โดยพฤติการณ์ คือ สีกากอล์ฟ พยายามจะเข้าหาเจ้าอาวาสวัดโสธร ผ่านทางผู้ช่วยเจ้าอาวาส จนติดต่อพูดคุยกันทางไลน์ และมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวได้ระยะหนึ่ง ก็ทักมาของเงิน 15,000 บาท อ้างว่า จะเอาไปมัดจำเซรามิกที่นำเข้าจากต่างประเทศ และเมื่ออดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสไม่มีให้ สีกากอล์ฟ ก็ข่มขู่ อ้างว่าจะเปิดเผยเรื่องที่มีการเสพเมถุนกัน จะทำให้เสียหายถูกจับสึกและลงโทษทางวินัย ทำให้อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสต้องโอนไปให้ 8,000 บาท มีหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องการเงินชัดเจน และยังพบพฤติการณ์ ที่บังคับให้อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ทำหนังสือร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์ ด้วย จึงถือเป็นการข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใดไม่กระทำการใด กระทบต่อเสรีภาพ



          ด้าน พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการปราบปรามการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) กล่าวว่า แยกกลุ่มพระออกเป็น 3 กลุ่มคือ



1.กลุ่มที่สีกายอมรับว่ามีการร่วมประเวณีและเสพเมถุนด้วยกัน มี 9 รูป สึกแล้วเกือบทั้งหมด เหลือ 1 รูป คือ เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก โดยแต่ละรูปมีเส้นทางการเงินตั้งแต่หลักพันถึงหลักล้าน



2.กลุ่มที่มีความสัมพันธ์ในลักษณะเชิงชู้สาว ที่ไม่สมควรอย่างยิ่งในทางพระวินัยถือว่าเป็นการผิดวินัยร้ายแรง กลุ่มนี้มี 3 รูป อยู่ระหว่างดำเนินการ



3.กลุ่มที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมไม่สมควร อยู่ระหว่างการคัดกรอง โดยหลังจากคัดกรองแล้วจะนำเข้าสู่ศูนย์บำรุงพระศาสนาเพื่อช่วยกันคัดแยกต่อไป



          ซึ่งเราได้มีการลำดับความสำคัญทั้งหมด 3 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกที่จะเอาเข้าสู่กระบวนการสอบสวน คือกลุ่มที่มีเส้นทางการเงินและเสพเมถุน หลังจากนั้นเราก็เริ่มสอบสวนพระ นำข้อมูลให้พระดูในบางเรื่องที่สามารถดูได้ โดยเมื่อพระเห็นพยานหลักฐานต่างๆ ก็สมัครใจลาสิกขาตามที่เป็นข่าวไป



          โดยสีกากอล์ฟมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านในรอบ 3 ปี ถอนออกไปเกือบหมดเหลือ 8,000 โดยมีการนำไปเล่นพนันออนไลน์ ซึ่งเป็นส่วนของไซเบอร์กำลังดำเนินการ โดยเบื้องต้นพบว่าสีกากอล์ฟนำเงินไปเล่นพนันสูงสุดถึง 500,000 บาท



#นารีพิฆาต



#เสพเมถุน

ข่าวทั้งหมด

X