เร่งสำนักพุทธฯ แก้กฎหมายเอาผิด สีกาเสพเมถุนกับพระ-จำกัดวัดถือเงินสดได้ไม่เกิน 1 แสนบาท

วันนี้, 08:15น.


          นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เมื่อมาถึงได้เข้ากราบสักการะสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร หลังการเข้าพบ นายสุชาติ กล่าวว่า เรื่องสงฆ์ที่เกิดปัญหาอยู่ในขณะนี้ เป็นเรื่องที่มหาเถรสมาคม มีการประชุมตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งเป็นการประชุมเร่งด่วนฉุกเฉิน เพื่อที่จะแก้ไขปัญหา และมอบหมายให้ตำรวจไปดำเนินการจับกุม อย่างน้อยต้องรายงานไปที่เจ้าคณะหน หรือพระผู้ใหญ่ เพื่อดำเนินการเอาผิดกับพระที่ปฏิบัติมิชอบ



           ส่วน พ.ร.บ. ที่จะคุ้มครองพระพุทธศาสนา ที่มหาเถรสมาคมให้คณะสงฆ์ได้ปรับแก้แทนที่จะออก พ.ร.บ.ใหม่นั้น นายสุชาติ ระบุว่า เมื่อวานนี้ (13 ก.ค.) เห็นมหาเถรสมาคมบอกแบบนั้น แต่ก็ต้องปรึกษากันใหม่ เพราะจะทำวิธีการใดที่จะแก้ พ.ร.บ.สงฆ์ ที่มีมาตั้งแต่ พ.ศ. 2505 หรือจะร่าง พ.ร.บ.ขึ้นมาใหม่ ซึ่งหลักการอยู่ที่จะดำเนินการอย่างไรที่จะเอาผิดสีกาที่ไปเสพเมถุนกับพระที่ประพฤติปฏิบัติผิดแบบนี้ ซึ่งต้องดูว่าจะเอาผิดอย่างไรได้ ถือเป็นหลักการอย่างหนึ่ง



          เมื่อถามถึงการเอาผิดสีกา ก. ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 206 ที่ระบุว่า ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ แก่วัตถุหรือสถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด อันเป็นการเหยียดหยามศาสนา จะถือว่าเข้าข่ายหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ขอนำเรื่องนี้ไปพิจารณาก่อน ซึ่งตนได้มอบนโยบายให้ทางสำนักพุทธฯ ไปแล้ว โดยจะต้องนำตัวสีกาคนดังกล่าวมาดำเนินการสอบสวน



          ระหว่างนี้ นายสุชาติ ได้หันหน้าไปพูดกับเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ พร้อมสั่งการให้ไปศึกษาว่า จะสามารถเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 206 ได้หรือไม่ พร้อมย้ำว่า อะไรที่สามารถกระทำการได้อย่างรวดเร็ว จะต้องนำผู้กระทำความผิดมาให้ได้ แต่ในขณะนี้ยังไม่สามารถเอาผิดสีกา ก.ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการฉ้อโกงหรือหลอกลวง รวมถึงความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งขณะนี้ต้องดูว่าเข้าข่ายในเรื่องใด



          ส่วน พ.ร.บ.สงฆ์ ที่จะมีการแก้ไข โดยเฉพาะเรื่องเงิน นายสุชาติ กล่าวว่า ต้นตอของปัญหา ต้นเหตุที่เกิดปัญหา กระบวนการหลอกพระ ก็มาจากการที่พระมีเงิน มีทรัพย์เยอะ และหลอกง่ายที่สุด เมื่อพระถูกแบล็กเมลหน่อยก็ต้องโอนเงินให้ พฤติการณ์นี้ทำเป็นขบวนการ ซึ่งเราก็พยายามที่จะทำเพื่อแก้ปัญหาต้นเหตุ เมื่อพระมีทรัพย์มาก และมีการใช้จ่ายโดยไม่มีการควบคุม ก็ต้องแก้ด้วยการออกกฎกระทรวงว่า ทุกบาททุกสตางค์ของวัด ต้องเอาเข้าบัญชีธนาคาร เงินสดที่วัดอาจจะถือได้ก็ต้องห้ามเกิน 100,000 บาท ไว้สำหรับค่าใช้จ่าย ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ และทุกบัญชีก็ต้องฝากธนาคารทั้งหมด ทุกเดือนจะต้องทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย และต้องสรุปรายงานบัญชีประจำปีด้วย ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการร่างแบบฟอร์มไว้หมดแล้ว โดยจะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป ซึ่งวัดทุกวัดจะต้องปฏิบัติตาม หากไม่ปฏิบัติก็ถือว่าเป็นการฝ่าฝืน รวมทั้งจะให้สำนักพุทธฯ ดำเนินการย้อนดูธุรกรรม สำหรับวัดที่พบความผิดปกติ



#เงินทำบุญ

ข่าวทั้งหมด

X