รัฐบาลหารือ กกร.-ธปท.ลดคาดการณ์GDPปีนี้ เหลือร้อยละ 1.6

10 กรกฎาคม 2568, 08:47น.


          นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ว่า ในการประชุมได้ประเมินผลกระทบในทุกสมมติฐาน และความเป็นไปได้ของแต่ละอัตราภาษี ที่จะเริ่มมีผลในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ และให้ทางภาคเอกชนกลับไปประเมิน โดยเน้นกระบวนการทำงานแบบเจาะลึกรายละเอียด เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบที่แท้จริงต่อภาคธุรกิจไทยอย่างรอบด้าน



          จากการประชุม ได้รับมอบหมายให้จัดทำการบ้าน เพื่อระบุปัญหา และผลกระทบที่ชัดเจนของแต่ละธุรกิจ รวมถึง ความต้องการในเชิงนโยบาย หรือมาตรการช่วยเหลือ โดยมีกำหนดเสนอผลการวิเคราะห์กลับมายังกระทรวงการคลังภายในวันที่ 11 กรกฎาคมนี้ เมื่อได้ข้อมูลครบถ้วนจากแต่ละกลุ่มธุรกิจแล้ว จะประชุมภายในเพื่อคัดกรอง ปรับมาตรการให้เหมาะสมกับแต่ละกลุ่ม โดยไม่ต้องรอการประชุมใหญ่อีกครั้ง หากยังไม่เพียงพอ ก็สามารถเรียกประชุมเพิ่มเติมได้ทันที ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับแต่ละภาคธุรกิจจะไม่เท่ากัน เนื่องจากขึ้นอยู่กับอัตราภาษี และสัดส่วนของการใช้วัตถุดิบในประเทศของแต่ละอุตสาหกรรม มีความแตกต่างกัน ทำให้ภาระภาษีไม่เท่ากัน



          ด้านนายปิติ ดิษยทัต รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในการจัดงาน Monetary Policy Forum 2/2568 ว่า 3 ประเด็นหลักที่ให้ความสำคัญ คือ 1.แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในครึ่งหลังปี 2568 ถือว่าไม่ดีเลย เพราะเป็นการเติบโตต่ำกว่าศักยภาพจากความเสี่ยงของปัจจัยการปรับขึ้นภาษีสหรัฐในอัตรา 36% 2.สภาพเศรษฐกิจโดยรวมครึ่งแรกปี 2568 มีการขยายตัวอยู่ ส่วนหนึ่งมาจากไตรมาส 2 มีการเร่งส่งออกสินค้าไปสหรัฐ ทำให้ครึ่งแรกโตเฉลี่ย 3% แต่มองไปข้างหน้าภาพไม่ได้ต่างจากสำนักอื่นมองนัก คือมีความท้าทายค่อนข้างมาก และ 3.นโยบายทางการเงิน ที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มองว่าจุดยืนของนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย และช่วยสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่เหมาะสม



          ทั้งนี้ กนง.พร้อมปรับเปลี่ยนนโยบายเพิ่มเติม หากดาวน์ไซส์ลิสต์เกิดขึ้นจริง หรือมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นอีก



          ธปท.กล่าวว่า คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2568 เดิม ธปท.ประเมินจีดีพีขยายตัว 2.3% โดยขยายตัวดีใกล้เคียง 3% ในช่วงครึ่งปีแรก และชะลอตัวรุนแรงช่วง ครึ่งหลังปีนี้ คาดว่าจีดีพีโตเพียง 1.6% ต่อเนื่องถึงปี 2569 คาดจะขยายตัวได้เพียง 1.7% เป็นผลจากการส่งออกคาดว่าติดลบ การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวต่ำมาก รวมทั้ง การบริโภคชะลอตัว



          โดยเฉพาะผลกระทบของนโยบายปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐ ทำให้ส่งออกปีนี้ติดลบ 4% และปี 2569 ติดลบ 2% จะส่งผลต่อเนื่องมายังการบริโภค และการลงทุนภายในประเทศ รวมถึง รายรับภาคการท่องเที่ยวที่ชะลอตัวลง จากนักท่องเที่ยวจีนที่ชะลอตัวลง แม้มีนักท่องเที่ยวระยะไกลเพิ่มขึ้น ท่องเที่ยวกระจุกใน 6 เมืองหลัก ทำให้ภาพรวมถือเป็นความท้าทายของเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า ซึ่งจะเติบโตได้ต่ำกว่า 2% อย่างน้อยอีกปีครึ่ง



 

ข่าวทั้งหมด

X