รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯประกาศในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้(8 ก.ค.)ว่า สหรัฐฯจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าทองแดงในอัตราร้อยละ 50 แต่เบื้องต้นยังไม่ชัดเจนว่า การเก็บภาษีนำเข้าทองแดงของสหรัฐฯจะเริ่มมีผลเมื่อใด เป็นส่วนหนึ่งของแผนขยายฐานภาษี ซึ่งจะครอบคลุมสินค้าอื่นๆเช่น เซมิคอนดักเตอร์และเภสัชกรรมในระยะต่อๆไปด้วย
นายทรัมป์ระบุว่า มาตรการนี้มุ่งจะปกป้องผู้ผลิตทองแดงในสหรัฐฯและสร้างงานในประเทศ ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯระบุว่า สหรัฐฯนำเข้าทองแดงรวมมูลค่า 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปีที่แล้ว(2567) ทั้งนี้ ชิลี เป็นซัพพลายเออร์ทองแดงรายใหญ่ที่สุด ส่งออกแทงแดงรวมมูลค่า 6,000 ล้านมาสู่ตลาดสหรัฐฯในปีที่แล้ว
ขณะเดียวกัน ราคาทองแดงตามสัญญาซื้อขายทองแดงล่วงหน้าในตลาดนิวยอร์ก สหรัฐฯพุ่งร้อยละ 15 อยู่ที่ 5.68 ดอลลาร์ต่อปอนด์ หลังนายทรัมป์ประกาศแผนเก็บภาษีนำเข้าทองแดง ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในอุตสาหกรรมหลายชนิด เช่น รถยนต์ไฟฟ้า อุปกรณ์ทางทหาร ระบบโครงข่ายไฟฟ้าและสินค้าอุปโภคบริโภคจำนวนมาก
นายสกอต เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯกล่าวว่า ตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา สหรัฐฯมีรายได้จากมาตรการตอบโต้ทางภาษีกับคู่ค้าทั่วโลกรวม 100,000 ล้านดอลลาร์ คาดว่า มีรายได้จากภาษีนำเข้าสินค้าราว 300,000 ล้านดอลลาร์ ภายในสิ้นปีนี้(2568) เทียบกับรายได้จากภาษีนำเข้าที่เก็บได้เฉลี่ย 80,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
#สหรัฐ
#เก็บภาษีทองแดง
ที่มา: รอยเตอร์, ซีเอ็นเอ็น