หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯโพสต์จดหมายที่ส่งถึงประธานาธิบดีอี แจ-มยองของเกาหลีใต้ผ่านสื่อออนไลน์ Truth Social เมื่อวานนี้(7 ก.ค.)แจ้งว่า สหรัฐฯได้ปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากเกาหลีใต้ในอัตราร้อยละ 25 เริ่มมีผลตั้งแต่ 1 ส.ค.นี้ พร้อมเสนอให้เกาหลีใต้เพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ลดภาษีเพิ่มเติมและยกเลิกมาตรการกีดกันทางการค้า เพื่อลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯในระยะยาว
ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ระบุในแถลงการณ์ในวันนี้(8 ก.ค.)ว่า เกาหลีใต้จะเร่งเดินหน้าเจรจาการค้ากับสหรัฐฯโดยกระทรวงอุตสาหกรรม การค้าและทรัพยากรของเกาหลีใต้มองว่า การขยายระยะเวลาการเจรจาครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญในการผ่อนผันภาษีไปอีกระยะหนึ่ง หวังว่าเกาหลีใต้จะสามารถบรรลุผลเจรจาการค้าที่เกิดผลดีแก่ทั้งสองฝ่ายในระยะยาว อีกทั้งจะช่วยลดผลกระทบต่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์และเทคโนโลยีที่พึ่งพาการส่งออกสู่ตลาดสหรัฐฯเป็นหลัก
ขณะเดียวกัน รัฐบาลเกาหลีใต้จะปรับปรุงระบบการทำงานในภาครัฐและกฏระเบียบต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ให้สอดคล้องกับข้อเสนอจากสหรัฐฯ พร้อมทั้งส่งเสริมความร่วมมือความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งสองในการพัฒนาอุตสาหกรรมสำคัญๆเช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ เหล็กกล้าและ อุตสาหกรรมต่อเรือ
นักเศรษฐศาสตร์ตั้งข้อสังเกตว่า ในปัจจุบัน อัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากเกาหลีใต้อยู่ในระดับต่ำใกล้เกือบร้อยละ 0 เป็นผลพวงจากการที่สหรัฐฯและเกาหลีใต้ได้ลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีในปี 2550 และต่อมา มีการแก้ไขปรับปรุงข้อตกลงดังกล่าวในปี 2561 ในยุคที่นายทรัมป์บริหารประเทศสมัยแรก โดยข้อมูลจากสำนักงานศุลกากรของเกาหลีใต้ระบุว่า เกาหลีใต้ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯ 55,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปีที่แล้ว(2567) เพิ่มร้อยละ 25 จากปี 2566
#เกาหลีใต้
#เร่งสรุปเจรจาการค้าสหรัฐ
ที่มา: รอยเตอร์,บลูมเบิร์ก