ราคาน้ำมันขยับขึ้นในวันจันทร์(7ก.ค.) ท่ามกลางสัญญาณอุปสงค์แข็งแกร่ง แม้มีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบโอเปกพลัสปรับเพิ่มกำลังผลิตและมาตรการรีดภาษีของทรัมป์ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 93 เซนต์ ปิดที่ 67.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 1.28 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความเคลื่อนไหวของตลาดน้ำมันมีขึ้นแม้โอเปกและพันธมิตร หรือที่เรียกว่าโอเปกพลัส เห็นพ้องกันในวันเสาร์(5ก.ค.) ให้ปรับเพิ่มกำลังผลิต 548,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนสิงหาคม จากเดิมที่ปรับขึ้นกำลังผลิต 411,000 บาร์เรลต่อวัน ในช่วง 3 เดือนก่อนหน้านั้น
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯร่วงลงอย่างหนักในวันจันทร์(7ก.ค.) หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงรีดภาษีระดับสูงกับญี่ปุ่น เกาหลีใต้และคู่หูการค้าอื่นๆ ในขณะที่หุ้นของเทสลาปิดลบหนัก หลังซีอีโอ อีลอน มัสก์ แถลงจะจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ในอเมริกา ดาวโจนส์ ลดลง 422.17 จุด (0.94 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 44,406.36 เอสแอนด์พี ลดลง 49.37 จุด (0.79 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,229.98 จุด แนสแดค ลดลง 188.59 จุด (0.92 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 20,412.52 จุด
ราคาทองคำปิดในกรอบแคบๆในวันจันทร์(7ก.ค.) ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นได้ก่อแรงกดดันต่อโลหะมีค่าชนิดนี้ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 10 เซนต์ หรือ 0.10 % ปิดที่ 3,342.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์