ราคาน้ำมันขยับขึ้น 3% ในวันพุธ(2ก.ค.) หลังอิหร่านระงับความร่วมมือกับหน่วยงานเฝ้าระวังทางนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 2.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 67.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 2.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อิหร่านบังคับใช้กฎหมายกำหนด ให้การตรวจสอบที่ตั้งนิวเคลียร์ใดๆนอนาคตโดยทบวงปรมาณูระหว่างประเทศหรือ IAEA ต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาความมั่นคงสูงสุดแห่งชาติของอิหร่านก่อน พร้อมกล่าวหาว่า IAEA เลือกข้างให้ความชอบธรรมแก่การโจมตีทางอากาศของอิสราเอล
ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ(อีไอเอ) ระบุว่า คลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศ เพิ่มขึ้นถึง 3.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 419 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้ ขณะที่อุปสงค์เบนซินลดลงสู่ระดับ 8.6 ล้านบาร์เรล โหมกระพือความกังวลเกี่ยวกับการบริโภคในช่วงพีคสุดของฤดูกาลขับขี่
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดผสมผสานในวันพุธ(2ก.ค.) ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี และข้อตกลงการค้าระหว่างอเมริกากับเวียดนาม ที่ช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าที่ยืดเยื้อ
ดาวโจนส์ ลดลง 10.52 จุด (0.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 44,484.42 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 29.41 จุด (0.47 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,227.42 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 190.24 จุด (0.94 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 20,393.13 จุด]
ส่วนราคาทองคำขยับขึ้นในวันพุธ(2ก.ค.) หลังข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอเกินคาด ก่อความคาดหวังว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด โดยราคาทองคำโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 9.90 ดอลลาร์ หรือ 0.30 % ปิดที่ 3,359.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์