*รอบโลก:เจรจานิวเคลียร์อิหร่านไม่สำเร็จ/ไม่พบระเบิดในเครื่องบินเตอร์กิชแอร์ไลน์สหลังถูกขู่*

+++การเจรจานิวเคลียร์อิหร่าน ไม่สามารถหาข้อตกลงกันได้ ทุกฝ่ายยังเดินหน้าหารือและยืนยันว่าจะดำเนินการให้ได้ข้อยุติ เฟเดริกา โมเกรินี ประธานนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวระหว่างหยุดพักการเจรจาในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย สหรัฐฯ ระบุว่า เงื่อนไขต่างๆของข้อตกลงเบื้องต้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2013 ซึ่งอิหร่าน กำลังดำเนินการปรับลดสต๊อกยูเรเนียมแปรรูปเพื่อแลกกับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร จะถูกขยายออกไปจนถึงวันศุกร์ที่10 กรกฎาคม หมายความว่าวันดังกล่าวจะเป็นเส้นตายใหม่ของการเจรจาเช่นกัน  การเจรจาล่าสุด ยังไม่ได้อยู่ในจุดที่จะได้บทสรุปของข้อตกลง

+++หลังจากที่สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ว่าเครื่องบินของสายการบินเตอร์กิซแอร์ไลน์สที่ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่เมืองอิสตันบูลของตุรกี เที่ยวบิน TK-65  ต้องร่อนลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินนานาชาติอินทิรา คานธี ในกรุงนิวเดลี หลังลูกเรือคนหนึ่งพบข้อความเขียนด้วยลิปสติกบนกระจกในห้องน้ำขู่ว่า มีระเบิดอยู่ในห้องเก็บสัมภาระใต้ท้องเครื่องบิน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องอพยพผู้โดยสารและลูกเรือจำนวน148คนทันทีที่เครื่องบินร่อนลงจอดที่สนามบินในกรุงนิวเดลี ขณะที่สื่อท้องถิ่นอินเดียรายงานว่า จากการตรวจสอบกลับไม่พบวัตถุระเบิดต้องสงสัยดังกล่าว        

+++มาฮีช ชาร์มา รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการบินพลเรือน เปิดเผยว่า ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดและคณะเจ้าหน้าที่ความมั่นคงแห่งชาติ ไม่พบระเบิดใดๆ หลังจากเข้าตรวจค้นอย่างละเอียด และมีการสอบปากคำเหล่าผู้โดยสารเกี่ยวกับข้อความที่พบบนกระจก เมื่อเดือนมี.ค.เครื่องบินของสายการบินเตอร์กิซแอร์ไลน์ส ที่ออกเดินทางจากเมืองอิสตันบูลไปยังประเทศบราซิลต้องร่อนลงจอดฉุกเฉินที่โมร็อกโกเนื่องจากเกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันแบบนี้มาแล้ว

+++ผู้นำยุโรปเตือนนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส ของกรีซ ให้ยื่นเสนอแผนการใหม่ซึ่งน่าเชื่อถือในที่ประชุมฉุกเฉินนี้ หรือไม่ก็ต้องออกจากยูโรโซน ขณะที่ระบบธนาคารกรีซใกล้ล่มสลายเต็มที โดยกรีซต้องประกาศขยายเวลาปิดธนาคารและตลาดหุ้นออกไปอย่างน้อยจนถึงวันพฤหัสบดี ทั้งนี้ หากธนาคารต่างๆ ของกรีซถึงขั้นอยู่ในภาวะขาดแคลนเงินสด กรีซก็อาจต้องพิมพ์ธนบัตรเอง นายกฯกรีซ ซึ่งเป็นผู้นำพรรคฝ่ายซ้ายจัด จะต้องเผชิญงานหนักในการโน้มน้าวผู้นำอีก 18 ชาติของยูโรโซน ที่หลายๆ คนแสดงความเบื่อหน่ายกับวิกฤตหนี้กรีซที่ยืดเยื้อมาถึง 5 ปีแล้ว ให้ยินยอมเร่งเปิดการเจรจาเพื่อปล่อยสินเชื่อกู้ชีพจรเศรษฐกิจกรีซอีกครั้งหนึ่ง

+++2ผู้นำชาติยูโรโซนซึ่งทรงอิทธิพลที่สุด อันได้แก่ นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี และประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศส ได้พบปะหารือกันก่อนที่กรุงปารีสในค่ำวันจันทร์ เพื่อกำหนดจุดยืนที่เป็นเอกภาพ โดยได้แถลงภายหลังการหารือว่า ยังเปิดโอกาสสำหรับเจรจาเพื่อปกป้องเศรษฐกิจกรีซ รัฐมนตรีเศรษฐกิจ ซิกมาร์ กาเบรียล ของเยอรมนี ยืนยันว่าการพูดจากันในเรื่องลดหนี้สินให้กรีซเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ถ้ากรีซไม่ดำเนินการปฏิรูปก่อน

+++นายกฯ มานูเอล วาลส์ ของฝรั่งเศส ยืนยันว่า การให้กรีซออกไปจากยูโรโซน หรือที่เรียกกันว่า เกร็กซิต (Grexit) ไม่ใช่เป็นทางเลือกที่ควรจะนำมาพิจารณาเลย ฝรั่งเศสแน่ใจว่าไม่สามารถเสี่ยงให้กรีซออกไป และจะทำ ทุกอย่าง เพื่อรักษาให้กรีซยังคงใช้สกุลเงินยูโรต่อไป    

+++ความเคลื่อนไหวราคาน้ำมันในตลาดโลก ทรงตัวในกรอบแคบๆ  นักลงทุนจดจ่อกับเกี่ยวกับวิกฤตหนี้กรีซและจีน น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 20 เซนต์ ปิดที่ 52.33 ดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนเมษายน ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ ปิดที่ 56.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นักลงทุนกังวลกับอุปสงค์น้ำมันดิบที่อาจอ่อนแอลง ผลจากวิกฤตหนี้ของกรีซ ที่อาจต้องทำให้ประเทศแห่งนี้ต้องออกจากยูโรโซน ขณเดียวกันตลาดหุ้นจีนก็ยังดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง แม้รัฐบาลจีนได้ใช้มาตรการเชิงรุกมากขึ้นเพื่อสนับสนุนตลาดทุนแล้วก็ตาม

+++ความกังวลต่อวิกฤตหนี้ยูโรโซน ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เพิ่มแรงกดดันต่อราคาน้ำมัน ขณะเดียวกันมันก็ฉุดให้ราคาทองคำปิดแดนลบ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 20.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,152.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต่ำที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม

+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ แกว่งตัวจากแนวลบขึ้นไปปิดบวกในกรอบแคบๆ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 93.33 จุด ปิดที่ 17,776.91 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 12.58 จุด ปิดที่ 2,081.34 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 5.52 จุด ปิดที่ 4,997.46 จุด 

+++นายซีดิก ซีดิกกิ โฆษกกระทรวงมหาดไทยของอัฟกานิสถาน เปิดเผยว่า เกิดเหตุคนร้ายใช้ระเบิดซุกซ่อนในรถยนต์แล้วจุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตายขณะพุ่งโจมตีรถยนต์แลนด์ครุยเซอร์ของทหารองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้ ในย่านชาห์ชาฮีด ทางตะวันออกของกรุงคาบูล มีผู้บาดเจ็บ2คน ส่วนรถยนต์แลนด์ครุยเซอร์เกิดไฟไหม้หลังโดนระเบิดแต่โฆษกของตำรวจแถลงว่าผู้บาดเจ็บ 2คนเป็นชาวต่างชาติ 1คนและชาวบ้านที่ผ่านมาในเหตุการณ์

+++ส่วนการโจมตีครั้งที่สองเกิดขึ้นเพราะกลุ่มตอลีบัน บุกเข้าโจมตีสำนักงานหน่วยข่าวกรองของกองทัพอัฟกานิสถานโดยใช้มือระเบิดฆ่าตัวตาย3คนด้วยกัน คนแรกจุดชนวนระเบิดและอีก2คนถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงยิงเสียชีวิต เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสำนักงานหน่วยข่าวกรองทหารเสียชีวิต 1ศพ บาดเจ็บอีก1คน กลุ่มตอลีบันอ้างความรับผิดชอบเหตุโจมตีทั้งสองครั้งนี้ เกิดขึ้น 1สัปดาห์หลังเหตุโจมตีเมื่อวันอังคารที่30มิ.ย.เป้าหมายขบวนรถของทหารสหรัฐฯใกล้กับสถานทูตสหรัฐฯในกรุงคาบูล กลุ่มตอลีบันและกลุ่มหัวรุนแรงอื่นๆได้ปฏิบัติการโจมตีต่อเนื่องเป้าหมายทหารอัฟกานิสถานและทหารต่างชาติในปีนี้ หลังจากทหารกองกำลังพันธมิตรเกือบจะทั้งหมดได้ถอนตัวออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปลายปี2557

+++สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างเดอะซัน สื่อแทบลอยด์ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษว่า สำนักงานสื่อสารของธนาคารเอชเอสบีซีในกรุงลอนดอนยืนยันว่า ธนาคารได้สั่งปลดพนักงาน 6 คนซึ่งถ่ายคลิปวีดีโอเลียนแบบการสังหารของกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) โดย 5 คนในจำนวนนั้นแสดงท่าทางคล้ายเป็นสมาชิกกลุ่มไอเอสฆ่าตัดคอเพื่อนร่วมงานอีกคนหนึ่ง ซึ่งรับบทเป็นตัวประกัน  ธนาคารระบุว่า ไล่พนักงานทั้ง 6 ทันที่ที่ตรวจพบคลิปวีดีโอดังกล่าวเนื่องจากรับไม่ได้กับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม พร้อมทั้งขอโทษสาธารณะชนสำหรับพฤติกรรมดังกล่าวก่อนหน้านี้ คลิปชุดนั้นมีการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์อินสตาแกรม ก่อนจะถูกลบในเวลาต่อมา

+++ผู้เชี่ยวชาญซึ่งเป็นคณะทำงานอิสระของสหประชาชาติ(ยูเอ็น)กล่าวว่า องค์การอนามัยโลก(ฮู)ประกาศให้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขเมื่อวันที่8ส.ค.ปีที่แล้วล่าช้าเกินไป หลังการแพร่ระบาดผ่านไป5เดือน ซึ่งใช้แผนเชิงรับมากกว่าเชิงรุก รวมถึงล้มเหลวในการแจ้งเตือนผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่ ขณะที่ในช่วงเดือนแรกๆที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลา นางมาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการฮูและเจ้าหน้าที่ระดับสูง ล้มเหลวในการตัดสินใจที่เด็ดขาดและเป็นอิสระ ในการประสานงานกับรัฐบาลที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก ได้แก่ เซียร์ราลีโอน ไลบีเรีย และกินี ทำให้มีประชาชนเสียชีวิตไปกว่า 11,000 ศพ ตลอดระยะเวลา18เดือนที่เกิดการแพร่ระบาดอย่างหนัก นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญยังวิจารณ์การทำงานของฮูว่า ล้มเหลวในการให้ความรู้แก่ประชาชน ขาดการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ขอให้ฮูเพิ่มงบประมาณที่ใช้ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคเพิ่มขึ้น

+++กระทรวงสาธารณสุขของเกาหลีใต้ รายงานว่า ไม่มีคนไข้เมอร์สรายใหม่ในเกาหลีใต้ 2 วันติดต่อในวันนี้และไม่มีกรณีการเสียชีวิตมาแล้ว 1 สัปดาห์ สำหรับตัวเลขคนไข้ที่ติดไวรัสเมอร์สในเกาหลีใต้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงคือ 186 คน ยอดรวมของผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 33 ศพ บ่งชี้ว่าการแพร่ระบาดเริ่มลดลง ในรอบ 4  รัฐบาลเกาหลีใต้วางแผนจะแถลงเรื่องการสิ้นสุดการแพร่ระบาดของไวรัสเมอร์ส ถ้าระยะ 28 วันหรือ 2 เท่าของระยะฟักเชื้อผ่านไปโดยไม่มีคนไข้เมอร์สรายใหม่

+++กระทรวงมหาดไทยรัสเซีย ออกแผนรณรงค์เตือนการใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายเซลฟี่ ได้จัดพิมพ์แผ่นพับแจกจ่ายให้กับประชาชนซึ่งเขียนว่า รูปเซลฟี่เจ๋งๆอาจต้องแลกกับชีวิต และคำแนะนำอื่นๆเช่นการ ถ่ายเซลฟี่คู่กับอาวุธที่อันตรายถึงชีวิต นอกจากแผ่นพับแล้วกระทรวงยังจัดทำวีดีโอคำแนะนำโพลส์ลงในเว็บไซต์ของกระทรวงอีกด้วย ปีนี้ รัสเซียมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายสิบคนจากการถ่ายเซลฟี่ที่เสี่ยงอันตราย เมื่อเดือนม.ค. วัยรุ่นชายชาวรัสเซีย2คนในเขตอูราลได้ถ่ายเซลฟี่คู่กับระเบิดมือที่ดึงสลักออก และเกิดระเบิดตามมา โดยโทรศัพท์มือถือสามารถเก็บภาพไว้ได้ ตามมาด้วยเดือนพ.ค.วัยรุ่นรายหนึ่งในภูมิภาคเรซันได้ปืนขึ้นไปบนสะพานรถไฟเพื่อถ่ายเซลฟี่ก่อนไปโดนสายไฟถูกไฟดูดเสียชีวิต และเหตุการณ์ที่หญิงรัสเซียวัย21ปี คนหนึ่งในกรุงมอสโก ทำกระสุนปืนลั่นใส่ศีรษะตัวเองขณะกำลังถ่ายเซลฟี่ในท่าถือปืนโชคดีที่รอดชีวิตมาได้

CR:แฟ้มภาพ