เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วม 17 จังหวัด

วันนี้, 14:09น.


          กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขัง ในช่วงวันที่ 1 – 5 กรกฎาคม 2568 นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้มีประกาศฉบับที่ 1/2568 ลงวันที่ 28 มิ.ย. 68 แจ้งว่า ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ ซึ่งจากการประเมินวิเคราะห์สภาพอากาศ สถานการณ์น้ำ พบว่ามีพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังเป็นประจำ เนื่องจากระบายไม่ทันและระดับน้ำโขงเปลี่ยนแปลง โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ระหว่างวันที่ 1 - 5 ก.ค. 68 ดังนี้



พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินโคลนถล่ม



- ภาคเหนือ จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย (อำเภอเมืองเชียงราย แม่สาย พญาเม็งราย เวียงชัย เทิง เชียงของ เวียงแก่น และอำเภอเชียงแสน) จังหวัดพะเยา (อำเภอเมืองพะเยา ปง และอำเภอเชียงม่วน) จังหวัดน่าน (อำเภอเมืองน่าน บ่อเกลือ ปัว ทุ่งช้าง ภูเพียง ท่าวังผา และอำเภอเวียงสา) และจังหวัดตาก (อำเภอท่าสองยาง และอำเภออุ้มผาง)



- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเลย (อำเภอเมืองเลย นาด้วง ด่านซ้าย นาแห้ว และอำเภอปากชม) จังหวัดหนองคาย (อำเภอรัตนวาปี) จังหวัดบึงกาฬ (อำเภอเมืองบึงกาฬ และอำเภอปากคาด) จังหวัดอุดรธานี (อำเภอวังสามหมอ และอำเภอหนองหาน) จังหวัดร้อยเอ็ด (อำเภอทุ่งเขาหลวง พนมไพร สุวรรณภูมิ เสลภูมิ หนองฮี และอำเภออาจสามารถ) จังหวัดยโสธร (อำเภอเมืองยโสธร และอำเภอมหาชนะชัย) จังหวัดสุรินทร์ (อำเภอกาบเชิง บัวเชด และอำเภอสังขะ) จังหวัดศรีสะเกษ (อำเภอศิลาลาด และอำเภอภูสิงห์) และจังหวัดอุบลราชธานี (อำเภอโขงเจียม สิรินธร พิบูลมังสาหาร และอำเภอศรีเมืองใหม่)



- ภาคกลาง จำนวน 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี (อำเภอเมืองจันทบุรี ขลุง ท่าใหม่ นายายอาม มะขาม และอำเภอแหลมสิงห์) และจังหวัดตราด (อำเภอเมืองตราด เขาสมิง และอำเภอบ่อไร่)



- ภาคใต้ จำนวน 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดระนอง (อำเภอเมืองระนอง กะเปอร์ ละอุ่น และอำเภอกระบุรี) และจังหวัดพังงา (อำเภอคุระบุรี ตะกั่วป่า กะปง และอำเภอท้ายเหมือง)



พื้นที่เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุเก็บกัก



- บริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง น่าน สุโขทัย พิษณุโลก สกลนคร อุดรธานี ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ นครพนม นครราชสีมา สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ตราด สุราษฎร์ธานี และจังหวัดกระบี่ และเร่งพร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำมากกว่าความจุเก็บกัก ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยโทง และอ่างเก็บน้ำห้วยซวง จังหวัดสกลนคร อ่างเก็บน้ำหนองหญ้าม้า จังหวัดกาฬสินธุ์ อ่างเก็บน้ำด่านชุมพล จังหวัดตราด รวมทั้งพิจารณาพร่องน้ำในแหล่งน้ำ ได้แก่ กว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา หนองหาร จังหวัดสกลนคร และหนองกุดทิง จังหวัดบึงกาฬ เพื่อรองรับปริมาณน้ำหลากจากฝนที่ตกหนักในพื้นที่



พื้นที่เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ



- บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของ แม่น้ำอิง บริเวณ อำเภอเชียงคำ เทิง พญาเม็งราย ขุนตาล และอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย



- พื้นที่เฝ้าระวังผลกระทบจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงเปลี่ยนแปลง เนื่องจากมีปริมาณฝนตกสะสม บริเวณสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวโน้มส่งผลกระทบพื้นที่จังหวัดริมแม่น้ำโขง ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และจังหวัดอุบลราชธานี



          ปภ.ได้ประสานแจ้งจังหวัดและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัยได้ โดยได้กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพื้นที่ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง



          นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัยและเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น และให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ได้อย่างถูกต้องและปฏิบัติตนได้อย่างปลอดภัยเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้นในพื้นที่



#ฝนตกหนัก 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X