*รมว.คมนาคม จำกัดน้ำหนักรถวิ่งผ่านถนนริมคลองชลประทานหลังทรุดตัว*

การป้องกัน และแก้ไขปัญหาถนนทรุดตัว ในพื้นที่กรมทางหลวงชนบท พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดหลังการลงสำรวจพื้นที่ถนนทรุดเลียบคลองระพีพัฒน์ ว่า สาเหตุที่ทำให้ถนนทรุดในครั้งนี้เกิดจากดินที่เป็นฐานล่างของถนน ซึ่งมีมาตั้งแต่อดีต เกิดการไสล์ตัวลงไปในคลอง เนื่องจากเมื่อระดับน้ำลดลงจึงไม่มีแรงต้านดิน รวมถึงเมื่อมีรถขนาดใหญ่วิ่งผ่านมา ก็ทำให้ดินทรุดตัวลงไปในคลอง

ส่วนการแก้ปัญหา ถนนที่ กรมทางหลวงชนบทได้รับมอบมาจากกรมชลประทานกว่า 2,600กิโลเมตร ที่มีพื้นที่เสี่ยงกว่า 50กิโลเมตร รวมถึงพื้นที่ที่มีการทรุดตัวของถนนไปแล้วกว่า 5กิโลเมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 0.2 ของทั้งหมด ถ้าเป็นส่วนของถนนที่ทรุดตัวนี้หลังจากปรับปรุงในเบื้องต้นก็จะให้เฉพาะรถเล็กสามารถวิ่งสัญจรชั่วคราวไปก่อน ส่วนถนนในพื้นที่เสี่ยงอีกกว่า 50กิโลเมตรนั้น ระหว่างรอการดำเนินการแก้ไขในระยะยาว ก็จะจำกัดควบคุมน้ำหนักรถที่จะวิ่งผ่าน ซึ่งจากเดิมจำกัดที่ไม่เกิน 25ตัน ก็ให้เหลือ 18 ตัน ส่วนการแก้ไขระยะยาวในเบื้องต้นจะใช้งบกลางปี59 ในการเจาะ สำรวจ ถนนในพื้นที่เสี่ยงเพื่อเตรียมการออกแบบ แก้ไข ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาสำรวจประมาณ 3เดือน และจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในปี59 ส่วนในเรื่องงบประมาณการก่อสร้างก็จะต้องรอการประเมินก่อน

นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า ในส่วนการควบคุมน้ำหนักรถก็จะให้ทางเจ้าหน้าที่ของทางกรมทางหลวงชนบทไปตรวจสอบรถที่จะวิ่งผ่านถนนในจุดเสี่ยง ที่อาจทำให้ถนนเกิดการทรุดตัวทั้งกลางวัน และกลางคืน โดยจะตรวจสอบโดยใช้เครื่องชั่งน้ำหนักเคลื่อนที่ไปตรวจสอบควบคุมน้ำหนักของรถที่จะวิ่งผ่านถนนในจุดเสี่ยงให้มีน้ำหนักให้ไม่เกิน 18ตัน  เพื่อรอการสำรวจและปรับปรุงในอนาคตต่อไป  ขณะที่การแก้ไขในระยะยาวก็จะใส่เสาเข็มเป็นฐานล่างของถนนเพื่อป้องกันการสไลด์ตัวของดินและน้ำกัดเซาะถนนได้ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้สามารถแก้ปัญหาถนนทรุดตัวได้อย่างถาวร