ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน 2568 เป็นต้นมา เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในแขวงหลวงน้ำทา ภาคเหนือของลาว ส่งผลให้ช่วงบ่ายของเมื่อวานนี้(28 มิ.ย.) มวลน้ำมหาศาลได้ไหลลงไปท่วมบริเวณหน้าด่านชายแดนบ่อเต็น-บ่อหาน และภายในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อเต็นแดนงาม เมืองบ่อเต็น ตามรายงานของสื่อในลาว ระบุว่า น้ำที่ท่วมหน้าด่านชายแดนบ่อเต็น-บ่อหาน เมื่อวานนี้ สูงประมาณ 1 เมตร ทำให้รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ส่วนรถบรรทุกใหญ่ แม้ผ่านได้ ก็ต้องใช้เวลาและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
จากคลิปและภาพข่าวที่สื่อออนไลน์หลายแห่งนำเสนอช่วงบ่ายวานนี้ เห็นแถวรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ยาวเหยียดต้องค่อยๆวิ่งผ่านถนนที่มีน้ำท่วมขัง มีรถบรรทุกอีกนับสิบคันจำเป็นต้องจอดรอไว้ก่อน เพราะไม่กล้าเสี่ยงขับผ่านมวลน้ำที่ไหลลงมาอย่างเชี่ยวกราก
เพจหนังสือพิมพ์ลาวพัฒนา รายงานว่า จนถึงเวลาประมาณ 15.30 น. บริเวณหน้าด่านชายแดนบ่อเต็น-บ่อหาน ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างหนัก.
ด่านชายแดนบ่อเต็น-บ่อหาน เป็นประตูการค้าหลักของลาวและจีน และเป็นปลายทางของถนนสาย R3a ฝั่งตรงข้ามด่านบ่อเต็น เป็นเมืองบ่อหาน เขตปกครองตนเองชนชาติไต สิบสองปันนา มณฑลยูนนาน
ด่านแห่งนี้เป็นช่องทางเข้า-ออกของผู้คนที่ใช้การสัญจรโดยรถยนต์ ระหว่างเมืองคุนหมิง เมืองเชียงรุ่ง กับลาว ที่สำคัญ รถบรรทุกสินค้าทุกชนิดจากจีนที่ส่งขายลงมายังลาว และรถบรรทุกของลาวกับรถบรรทุกสินค้าจากประเทศไทยที่ส่งออกไปยังจีนผ่านลาว ทางด่านสะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ล้วนถูกขนส่งเข้าไปในจีนผ่านช่องทางนี้
ก่อนหน้านี้ หน่วยงานควบคุมน้ำท่วมในอำเภอหรงเจียง มณฑลกุ้ยโจวทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน รายงานว่าเหตุน้ำท่วมรุนแรงในอำเภอหรงเจียงส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย เมื่อนับถึง 11.00 น. ของวันพฤหัสบดี (26 มิ.ย.) อำเภอหรงเจียงได้เผชิญกับน้ำท่วมครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี โดยระดับน้ำของแม่น้ำหลายสายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และอัตราการไหลของกระแสน้ำสูงสุดอยู่ที่ 11,360 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มวลน้ำได้เข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำหลายแห่ง สร้างความเสียหายหนักต่อโครงสร้างพื้นฐานในหลายตำบล ทำให้ถนนถูกตัดขาด ระบบสื่อสารล่ม และประชาชนติดค้าง
ปัจจุบันระดับน้ำในอำเภอหรงเจียงลดลงจนต่ำกว่าระดับเตือนภัยแล้ว ขณะการดำเนินงานกู้ภัยมุ่งเน้นการขุดลอกระบายน้ำ ป้องกันโรคระบาด ฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เริ่มต้นการฟื้นฟูในช่วงหลังภัยพิบัติ และค้นหาผู้ที่ยังติดค้างในพื้นที่