*รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ยืนยัน รัฐบาลไม่สืบทอดอำนาจ ห่วงภัยแล้งกระทบศก.*

07 กรกฎาคม 2558, 17:43น.


หลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือคสช.ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  กล่าวถึง 14นักศึกษาว่า จะได้รับการปล่อยตัวพรุ่งนี้เช้า  พลเอกประวิตรยืนยันว่า จะพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจ แต่ก็ขอให้ทราบว่าขณะนี้ประเทศอยู่ในภาวะไม่ปกติและต้องการเวลาให้รัฐบาลทำงานตามโรดแมปเพื่อไปสู่การมีรัฐธรรมนูญและการผ่านประชามติก่อน หลังจากนั้นจึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่และดำเนินการทุกอย่างได้ปกติ ยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ใช่ นักการเมือง รัฐบาลเร่งทำงานเต็มที่และไม่คิดสืบทอดอำนาจและไม่มีผลประโยชน์ใดๆ  ดังนั้นขอร้องให้นักศึกษาทั้งหมดหยุดการเคลื่อนไหวต่างๆและกลับไปเรียนหนังสือส่วนกลุ่มการเมืองที่อยู่เบื้องหลังเป็นหน้าที่ของคสช.ที่จะดำเนินการ



โดยสิ่งที่เป็นห่วงขณะนี้คือปัญหาภาวะภัยแล้งที่ส่งผลต่อการทำนาปีและปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ เชื่อว่าขณะนี้เกษตรกรยังสามารถทำนาปีได้ และสถานการณ์ภัยแล้งจะดีขึ้นในเร็ววัน แต่ยอมรับว่าหากเดือนกรกฎาคมแล้วฝนยังไม่ตกลงมาก็จะทำให้เกษตรกรลำบากและอาจส่งผลให้พื้นที่ดอนเสียหาย  โดยสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแบ่งการจัดสรรน้ำในแต่ละพื้นที่ให้เป็นระบบ  ยอมรับว่ารัฐบาลก็เป็นห่วงในปัญหาเศรษฐกิจและกำลังแก้ปัญหาในทุกด้าน จึงต้องการให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันในการแก้ปัญหาประเทศ



ส่วนเรือประมงหากยังทำผิดกฎหมายไม่มีอาชญาบัตรก็ไม่สามารถจับปลาได้ ยืนยันว่าทุกอย่างต้องไปตามกฎหมายเพื่อให้ผ่านการประเมินจากไอยูยูส่วนประมงชายฝั่งทำได้ตามปกติ    สำหรับ จัดซื้อเรือดำน้ำจากจีนด้วยงบกว่า 36,000ล้านบาทเป็นการพัฒนาตามแผนของกองทัพเรือที่มีมากว่า 20ปี และเคยเสนอมาที่สภากลาโหมหลายครั้ง รวมทั้งมีการตั้งกองเรือดำน้ำขึ้นมากว่าหลายปีแต่ขาดเรือดำน้ำมาใช้  ซึ่งยังมีขั้นตอน และยังไม่ได้รับหนังสือจากกองทัพเรือสู่สภากลาโหม เมื่อได้แล้วต้องพิจารณาและนำเข้าสู่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบต่อ พร้อมระบุว่าหากผ่านการเห็นชอบจริง อีกกว่า 5 ปีจึงจะได้เรือ ส่วนงบประมาณที่ซื้อเป็นการผ่อนจ่ายหลายงวดและยืนยันว่าการซื้อจากจีนเพราะต้องการสินค้าที่มีประสิทธิภาพและใช้งานได้จริง ไม่ได้ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวหรือมีเบื้องหลังใดๆ พร้อมระบุว่าต้องให้สังคมเข้าใจถึงความจำเป็นของการมีเรือดำน้ำ ว่าเป็นการเพิ่มศักยภาพเนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านต่างมีหมดแล้วดังนั้นไทยจำเป็นต้องมีเพื่อพัฒนากองทัพและไว้ต่อรองระหว่างประเทศ โดยเรือดำน้ำนี้จะนำมาใช้ฝั่งอันดามัน

ข่าวทั้งหมด

X