นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงท่าทีของประเทศไทย ต่อจุดยืนในสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชาจากการปะทะกันเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม (2568) ในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี โดยที่ฝ่ายไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน และไทยใช้สิทธิในการตอบโต้ โดยหนังสือประท้วงชี้แจงแล้วว่า ไทยจำเป็นจะต้องป้องกันตนเอง และรักษาอธิปไตยของประเทศ พร้อมย้ำว่า รัฐบาลและกองทัพร่วมมือกันอย่างดี และเข้าใจกันในการรักษาบูรณภาพแห่งดินแดน กระทำอย่างเหมาะสมต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นไปตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งกลไกทางการทูต และกลไกทางทหาร ก็มีการทำงานร่วมกัน โดยขณะนี้ยังมีความตึงเครียดในพื้นที่ เนื่องจากฝ่ายกัมพูชายังมีความพยายามในการวางกำลัง และขุดคูเลต บริเวณที่อยู่ในพื้นที่ที่ยังไม่ชัดเจนซึ่งเป็นการละเมิด MOU43 ซึ่งไม่ให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิประเทศ การเข้ามาขุดใด ๆ จึงเป็นการเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศ จนมีการปรับกำลังทหาร และกลบคูเลตให้เป็นสภาพเดิม ซึ่งแม้สถานการณ์จะมีการปรับกำลัง แต่ก็ยังมีกำลังที่เสริมเติมเข้ามา ฝ่ายไทยก็ต้องการให้ทุกอย่างกลับไปสู่สภาวะเดิม ทั้งกำลังเสริม และอาวุธหนัก
ชี้แจงว่า MOU43 คือกรอบการเจรจา และลดความตึงเครียด ไม่ใช่การตกลงเปลี่ยนแปลงอำนาจเขตแดนใด ๆ เพราะเขตแดนชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นผลมาจากสนธิสัญญาระหว่างสยาม-ฝรั่งเศส ซึ่งหลังจากนั้นก็มีเอกสารอื่น ๆ ตามมา จึงถือว่ามีความซับซ้อน และจะต้องพูดคุยกัน
กรณีที่ฝ่ายกัมพูชา จะนำพื้นที่พิพาทไปสู่การพิจารณาของศาลโลกนั้น ฝ่ายกัมพูชา ทราบอยู่แล้วว่า ประเทศไทยและอีกกว่า 100 ประเทศ ไม่รับอำนาจศาลโลก ดังนั้นการที่กัมพูชาพยายามจะไปศาลโลกจึงเป็นไปไม่ได้
ส่วนสถานการณ์การสู้รบในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน รัฐบาลยังไม่วางใจใด ๆ แม้สถานการณ์จะดีขึ้นเป็นลำดับ โดยมีการเตรียมอำนวยความสะดวกคนไทยที่ประสงค์จะเดินทางกลับ มีศูนย์ปฏิบัติการณ์เป็นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับประชาชนที่ออกจากพื้นที่อันตราย มายังพื้นที่ที่ปลอดภัย โดยได้รับความร่วมมือในการเคลื่อนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่เป็นอย่างดี
นายมาริษ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทยจากประเทศอิสราเอลและอิหร่าน ว่า ได้ติดต่อหารือกับนายอัยมัน อัล-ซาฟาดี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีการต่างประเทศจอร์แดน เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดกระบวนการผ่านด่านชายแดนสำหรับชาวไทยจากอิสราเอล ที่ประสงค์เดินทางกลับไทยในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอน ซึ่งได้รับการยืนยันว่าจะอำนวยความสะดวกให้ จึงให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน ประสานงานเรื่องนี้กับฝ่ายจอร์แดน เพื่อดำเนินการช่วยเหลือคนไทยต่อไป
...
#ไทยกัมพูชา
#กระทรวงการต่างประเทศ