เอเอฟพีรายงานวันอังคาร(24 มิ.ย)ว่า ย่านไทม์สแควร์ในมหานครนิวยอร์ค ไร้คนเที่ยวชม เนื่องจากสภาอากาศในช่วงกลางวันอุณหภูมิแตะ 37 องศาเซลเซียสถือว่าสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2012 สำนักงานบริการสภาพอากาศสหรัฐฯ NWS (National Weather Service) เปิดเผยว่า มีชาวอเมริกัน 161 ล้านคนในฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯถูกสั่งเตือนอากาศร้อนในวันอังคาร(24) CNN ของสหรัฐฯรายงาน ที่นวร์ก(Newark) รัฐนิวเจอร์ซีย์ อุณหภูมิสูง 39.4 องศาเซลเซียส ส่วนที่เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนียอยู่ที่ 38 องศาเซลเซียส ตามการวัดของNWS ชาวนิวยอร์กเกอร์ต่างกางร่มระหว่างกำลังเดินบนถนนในย่านแมนแฮตตันที่มีชื่อเสียง แต่มีหลายคนอยู่ในชุดว่ายน้ำนอนอาบแดดอย่างสบายใจในสวนสาธารณะ ที่เมืองบร็องซ์ (Bronx) เกิดปัญหาไฟดับส่งผลทำให้มีบ้านเรือนกว่า 34,000 หลังไม่มีกระแสไฟฟ้า
สำนักงานบริการสภาพอากาศสหรัฐฯ NWS ออกคำเตือนไปประชาชนในฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯว่าอาจต้องพบอุณหภูมิเฉลี่ยราว 36 องศาเซลเซียส – 39.4 องศาเซลเซียสในวันอังคาร(24) ขณะที่ดัชนีความร้อน( heat index) ที่เป็นดัชนีชี้วัดระดับของความรู้สึกไม่สบายโดยเฉลี่ยของคนที่รู้สึกภายใต้สภาพอุณหภูมินั้นที่เป็นผลลัพท์มาจากผลกระทบรวมกันจากปัจจัยอุณหภูมิและความชื้นในอากาศนั้นสูงลิ่วถึง 43.3 องศาเซลเซียสสำหรับย่านเมโทรนิวยอร์ก
ในคำเตือนอากาศร้อนของ NWS ระบุว่า “อากาศร้อนจัดรุนแรงยังคงอยู่ทั่วทั้งเขตมิดเวสต์และชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ..กระทบประชาชนอเมริกันเกือบครึ่งที่ราว 161 ล้านคน”และยังเตือนพลเมืองสหรัฐฯให้จำกัดกิจกรรมของตัวเองเนื่องมาจากปัญหาทางสภาพอากาศเป็นหลัก เอเอฟพีรายงานว่า บรรดาผู้โดยสารรถไฟแอมแทรคของสหรัฐฯได้ฟังประกาศเตือนออกมาว่า ในเส้นทางชายฝั่งตะวันออกรถไฟจำเป็นต้องจำกัดความเร็วส่งผลทำให้อาจมีการล่าช้า
นอกจากนี้อากาศร้อนจัดยังทำให้มีราว 16 คนต้องถูกส่งเข้าโรงพยาบาลและอีกกว่า 150 คนได้รับการประเมินว่าล้มป่วยจากปัญหาฮีทเวฟเกิดขึ้นในงานรับประกาศนียบัตรสำเร็จการศึกษาระดับไฮสกูล 2 แห่งในเมืองพาเตอร์สัน(Paterson) รัฐนิวเจอร์ซีย์ เมื่อวันจันทร์(23)