ศบ.ทก.ย้ำ ไทยคุมเข้มด่านไม่ใช่ปิดด่าน ยืนยันไทยไม่ได้เป็นฝ่ายตัดไฟ-อินเตอร์เน็ต

24 มิถุนายน 2568, 17:35น.


         การแถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) โดยมี พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย และ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แถลง โดยย้ำว่า เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ขอย้ำอีกครั้ง ว่ามาตรการการยกระดับควบคุมการผ่านแดนดังกล่าวไม่ใช่การปิดด่าน ตามที่มีรายงานข่าวที่คลาดเคลื่อน โดยในขณะนี้ทุกๆ จุดผ่านแดนยังคงเปิดทำการไม่ว่าจะเป็นจุดผ่านแดนถาวรจุดผ่านแดนชั่วคราวหรือจุดผ่อนปรนทางการค้าแต่มีการจำกัดการผ่านแดนที่เข้มข้นขึ้น



          ทั้งหมดนี้ยังคงเป็นการบังคับใช้มาตรการขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 จากทั้งหมด 4 ขั้น ตามที่ได้เคยเรียนให้ทราบแล้ว ฝ่ายไทยยังคงอนุญาตการผ่านแดนให้บุคคลที่มีความจำเป็นและโดยเหตุผลทางมนุษยธรรมเช่นผู้ที่ต้องการรับการรักษาพยาบาลและนักเรียนรวมถึงการดำเนินการที่มีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนเช่นการซื้อผักผลไม้และเครื่องอุปโภคบริโภคในครัวเรือนใน เรื่องนี้เรามีตัวอย่างให้เห็นแล้ว ทุกท่านจะได้เห็นในข่าวว่ามีการรับผู้ป่วยชาวกัมพูชามารักษาพยาบาลที่จังหวัดสระแก้วและจังหวัดจันทบุรีในช่วง 2-3 วันมานี้



          ประเด็นที่สอง ขอยืนยันว่ารัฐบาลไทยยังไม่มีนโยบายห้ามการส่งออกไฟฟ้าน้ำมันและสัญญาณอินเทอร์เน็ตไปยังกัมพูชา ในขณะที่รัฐบาลกัมพูชาเองเป็นฝ่ายที่ตัดสินใจระงับการนำเข้าน้ำมันจากไทย สำหรับฝ่ายไทยเรามีจุดยืนที่ชัดเจน เราไม่ต้องการดึงประชาชนทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชามาเป็นผู้รับภาระจากปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างรัฐ เมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรีได้แถลงประกาศการยกระดับมาตรการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการระงับการส่งออกไฟฟ้าน้ำมันและสินค้าที่อาจถูกนำไปใช้ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมายต่างๆ ขอย้ำว่ามาตรการล่าสุดของฝ่ายไทยเป็นมาตรการที่ดำเนินควบคู่ไปกับการดำเนินการของศบ.ทก. ที่มีจุดมุ่งหมายโดยตรงต่อธุรกิจเครือข่ายราชการข้ามชาติเป็นหลักและไม่ได้มีเป้าหมายเพียงประชาชนทั่วไปแต่เป็นไปเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในบริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศ



          ด้าน รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ระบุว่าด้านความมั่นคงวันนี้ มีทั้งหมดสามเรื่องด้วยกัน ประเด็นแรก ขอเน้นย้ำว่าการดำเนินการของกองทัพ โดยในคำสั่งของกองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 และกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด นั้นเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ตามข้อสั่งการของรัฐบาลที่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนทั้งสองประเทศ



        โดยยังอนุญาตให้ผ่านเข้าออกจากบุคคลที่มีความจำเป็นเช่นการส่งต่อผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลกรณีเร่งด่วนและด้านการศึกษาของนักเรียนรวมทั้งการดำเนินการที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดในการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน โดยอาศัยตามหลักมนุษยธรรม

          ประเด็นที่สอง ก็คือมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบตามพื้นที่แนวชายแดน โดยศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัด จะประชุมร่วมกับหอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด และภาคเอกชนในพื้นที่ เพื่อกำหนดแนวทางช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ



          ส่วนของกระทรวงแรงงานเองก็ได้มีข้อสั่งการให้แรงงานจังหวัดช่วยเหลือจัดหางานทดแทนสำหรับประชาชนที่ไม่สามารถเดินทางข้ามแดนได้ และกระทรวงพาณิชย์ก็ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดช่วยเหลือเกษตรกรในการหาช่องทางจำหน่ายสินค้าเกษตรในพื้นที่ด้วย



#ชายแดนไทย



#กัมพูชา

 



 

ข่าวทั้งหมด

X