ศาลอาญา ยกฟ้อง ‘สนธิ’ หมิ่น พล.ต.สมยศ ชี้ พูดตามข้อเท็จจริง

          วันนี้ ( 24 มิ.ย.68) ที่ห้องพิจารณาคดี 809 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ2708/2566 ที่ พล.ต.อ สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผบ.ตร.เป็นโจทก์ฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา กรณี กล่าวหา ว่า พล.ต.อ. สมยศ ให้การช่วยเหลือทางคดี กับบอส อยู่วิทยา

          นางสาวอัจฉรา แสงขาว ทนายความของนายสนธิ เปิดเผยว่า ชี้แจงเป็นรายประเด็น โดย ระบุว่า จำเลยพูดวิพากษ์วิจารณ์ เป็นการติชมโดยสุจริต พูดในข้อเท็จจริง พร้อมย้ำว่าแม้จะมีคำที่ไม่สุภาพไปบ้างแต่ไม่ถึงขั้นหมิ่นประมาท ทำให้ศาลพิพากษายกฟ้อง

           สำหรับคดีที่นายสนธิ พูดถึงคดีแรกที่พูดถึงว่าพลตำรวจเอกสมยศให้การช่วยเหลือคดีบอส อยู่วิทยา คดีนี้แม้ศาลอาญาทุจริตจะยกฟ้องพลตำรวจเอกสมยศ แต่คดีนี้ยังอยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์ และอธิบดีศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลางก็มีความเห็นแย้ง

          ส่วนประเด็นที่พลตำรวจเอกสมยศ ขึ้นเงินเดือนตัวเอง กฤษฎีกาตีความมาแล้ว ว่าไม่เป็นไปตามข้อบังคับและผิดตามพ.ร.บ.การกีฬา ถึงแม้พลตำรวจเอกสมยศจะไม่รับเงินเดือน แต่ด้านแต่นายวรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมฟุตบอล และตัวแทนของ นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมฟุตบอลคนปัจจุบัน มาเบิกความว่าการดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ เป็นการสมัครใจทำเพื่อชาติ และไม่มีใครขอขึ้นเงินเดือนอยู่แล้ว ส่วนประเด็นเรื่องตำรวจไซด์ไลน์ พลตำรวจเอกสมยศ เคยออกมายอมรับว่า เคยให้สัมภาษณ์แบบนั้นจริง

          ส่วนเรื่องฮั้วประมูลลิขสิทธิ์ไทยลีก เกิดขึ้นในสมัยที่พลตำรวจเอกสมยศเป็นนายกสมาคม ซึ่งในเรื่องดังกล่าวขาดการตรวจสอบคุณสมบัติของบริษัทที่มาประมูล จนทำให้เกิดความเสียหาย / และประเด็นลำดับขั้นของไทยลีก สมัยพลตำรวจเอกสมยศ ไทยลีกอยู่อันดับที่ 113 ของโลก ส่วนยุคของนางสาวนวลพรรณอยู่อันดับที่ 96 คำพูดที่บอกว่า “ยุคสมยศเละเทะ” แม้จะเป็นคำพูดที่ไม่สุภาพไปบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นหมิ่นประมาท

          ส่วนประเด็นยุคที่พลตำรวจเอกสมยศ เป็นนายกสมาคมฯ สมาคมฟุตบอลมีหนี้สิน 300 ล้านบาท แล้วต้องไปกู้เงินจากฟีฟ่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐ อีกทั้งพลตำรวจเอกสมยศ เคยกู้ยืมเงินเสี่ยกำพล 300 ล้านบาท ซึ่งเจ้าตัวก็เบิกความยอมรับในข้อเท็จจริง ว่า เคยยืมเงินสูงสุดถึง 1 พันล้านบาท โดยไม่มีการทำสัญญา

#ยกฟ้องสนธิ