นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวรายงานความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือคนไทย จากสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง โดย สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล และ ฝ่ายแรงงานฯ รวมถึง สถานเอกอัครราชทูตไทยในภูมิภาค ได้ประสานงกับบริษัทก่อสร้าง ที่ต้องการนำแรงงานชุดแรก 22 คนกลับประเทศไทย โดยเดินทางออกจากอิสราเอลทางบกเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และจะเดินทางถึงประเทศไทยในวันนี้ เวลา 19.20 น.
และยังอยู่ระหว่างการให้ความช่วยเหลือคนไทย ที่ประสงค์จะออกจากอิสราเอล 12 คน เพื่อเดินทางผ่านไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดย แบ่งเป็น 9 คน ออกจากอิสราเอลทางบก ในวันที่ 25 มิถุนายนนี้ ที่เหลือจะออกเดินทางในวันที่ 3 กรกฎาคม
อีกทั้งยังอยู่ระหว่างการประสานงาน กับบริษัทจัดหางานภาคการก่อสร้างของไทย ถึงความเป็นไปได้ที่จะย้ายแรงงานภาคการก่อสร้างในอิสราเอล จำนวน 3,000 คน ออกไปประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อรอดูสถานการณ์หรือเดินทางกลับประเทศไทย
ส่วนคนไทยในอิหร่านนั้น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุง เตหะราน ได้ช่วยเหลือคนไทยชุดแรก 3 คน ที่ประสงค์เดินทางออกนอกประเทศ ให้เดินทางออกทางบกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยปลอดภัยแล้ว เมื่อคืนวันที่ 21 มิถุนายน และ เตรียมเดินทางกลับไทยต่อไป
และกำลังอยู่ระหว่างการประสานช่วยเหลือคนไทยจากเมืองต่าง ๆ อีก 73 คน ที่ประสงค์จะออกจากอิหร่าน ให้สามารถออกเดินทางโดยทางบก ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
สำหรับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ได้จัดตั้งที่ทำการชั่วคราว และเปิดศูนย์พักพิง เพื่อให้ความช่วยเหลือคนไทย อยู่เมือง VAN ในประเทศตุรกี ใกล้กลับพรมแดนประเทศอิหร่าน
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ยังไม่ได้แจ้งอพยพอย่างเป็นทางการ เนื่องจากได้ประเมินและปฏิบัติตามลำดับขั้นตอน แต่มีคำแนะนำ ขอให้คนไทยที่พำนักอยู่ในอิสราเอลและอิหร่าน พิจารณาออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัยของทุกคนเอง โดยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตฯ ทั้งสองแห่งได้ตลอดเวลา
กระทรวงการต่างประเทศ ย้ำว่า ด้วยสถานการณ์ตึงเครียดที่ขยายตัวมากขึ้น จึงขอให้คนไทยในภูมิภาค ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด รวมทั้ง พิจารณาไม่เดินทางเข้าไปในพื้นที่ หากไม่มีความจำเป็น
#คนไทยในอิหร่าน
#แรงงานไทยในอิสราเอล
#กระทรวงการต่างประเทศ