ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายกัว เจียคุน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนฯแถลงที่กรุงปักกิ่งในวันนี้ (23 มิ.ย.)ขอให้ประชาคมระหว่างประเทศ เพิ่มความพยายามให้มากขึ้นในการเข้ามาช่วยคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งอิสราเอล-อิหร่าน เพื่อไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายมากกว่านี้ และป้องกันไม่ให้สถานการณ์ความวุ่นวายในตะวันออกกลางในขณะนี้กระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนฯแสดงความเห็นเรื่องนี้ หลังนักข่าวสอบถามความเห็นต่อกระแสข่าวที่ว่า ประชาชนในอิหร่านเรียกร้องให้รัฐบาลอิหร่านสั่งปิดช่องแคบฮอร์มุซ เส้นทางสำคัญในการลำเลียงน้ำมันดิบทางเรือไปสู่ตลาดโลก เพื่อตอบโต้การที่สหรัฐฯโจมตีโรงงานนิวเคลียร์อิหร่านเมื่อวานนี้ ซึ่งโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนฯกล่าวว่า อ่าวเปอร์เซียและพื้นที่โดยรอบถือเป็นเส้นทางสำคัญในการขนส่งสินค้าและพลังงานไปสู่ตลาดโลก ย้ำว่า การรักษาความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาคจะเกิดประโยชน์ร่วมกันสำหรับประชาคมระหว่างประเทศ
ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐอเมริกา ( EIA)ระบุว่า ช่องแคบฮอร์มุซ ตั้งอยู่ระหว่างอิหร่านกับโอมาน เป็นหนึ่งในเส้นทางขนส่งสินค้าทางเรือที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีการขนส่งน้ำมันดิบเฉลี่ย 20 ล้านบาร์เรลต่อวัน คิดเป็นร้อยละ 20 ของปริมาณน้ำมันดิบทั้งหมดของตลาดโลก ขณะเดียวกัน ประเทศจีนนำเข้าน้ำมันดิบเฉลี่ย 5.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเรือบรรทุกน้ำมันที่แล่นผ่านช่องแคบแห่งนี้ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้(2568)
ด้านโกลด์แมนแซกส์ ธนาคารรายใหญ่และบริษัทวิจัยตลาด ราปิดาน เอ็นเนอร์จี (Rapidan Energy) ของสหรัฐฯเตือนว่า ถ้ามีการปิดช่องแคบฮอร์มุซ เป็นเวลาหลายสัปดาห์ ราคาน้ำมันดิบอาจจะพุ่งไปเหนือระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจาก 77.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปัจจุบัน แต่นักวิเคราะห์จากจีพีมอร์แกน ประเมินว่า มีแนวโน้มต่ำที่อิหร่านจะปิดช่องแคบฮอร์มุซ เพราะสหรัฐฯจะมองว่า การที่อิหร่านทำเช่นนั้นเท่ากับประกาศสงครามกับสหรัฐฯ
#ท่าทีจีน
#การปิดช่องแคบฮอร์มุซ
#ทิศทางราคาน้ำมัน