2 เดือนของวันสิ้นพระชนม์ อดีตสันตะปาปาฟรานซิส เพจ Pope report รายงานว่า เมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน 2568 พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 ทรงเป็นประธานในมิสซาสมโภชพระวรกายและพระโลหิตของพระคริสตเจ้า ซึ่งจัดหน้ามหาวิหารซานโจวานนี่ อิน ลาเตราโน่ สำหรับบทเทศน์ในพิธี พระสันตะปาปาได้ใช้เรื่องราวอัศจรรย์การทวีขนมปังและปลาเป็นจุดเริ่มต้น เพื่ออธิบายถึงเทววิทยาของศีลมหาสนิทในฐานะ “การแบ่งปัน” สูงสุดของพระเจ้า
1.จากขนมปังและปลาสู่ศีลมหาสนิท: เมื่อการแบ่งปันของพระเจ้ามาก่อนของเรา
พระสันตะปาปาเริ่มต้นด้วยการอธิบายว่า อัศจรรย์ที่พระเยซูทรงทวีขนมปัง 5 ก้อนและปลา 2 ตัวเพื่อเลี้ยงดูฝูงชนนั้น เป็นมากกว่าปรากฏการณ์ที่น่าอัศจรรย์ แต่เป็น “สัญลักษณ์” ที่ชี้ไปยังความจริงที่ลึกซึ้งกว่า
พระสันตะปาปา ตรัสว่า “รากเหง้าของการแบ่งปันระหว่างมนุษย์ คือการที่พระเจ้าทรงแบ่งปันพระองค์เองกับเรา พระองค์เป็นพระผู้สร้าง ... ได้ทรงแบ่งปันความยากจนของเราจนถึงขีดสุด โดยเลือกที่จะใช้สิ่งเล็กน้อยที่เราสามารถถวายแด่พระองค์ได้เพื่อไถ่กู้เรา”
“พระเจ้าทรงรวมพระองค์เข้ากับเรา โดยยอมรับสิ่งที่เรานำมาถวายด้วยความยินดี และทรงเชิญชวนให้เรารวมเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์โดยการรับและแบ่งปันของประทานแห่งความรักของพระองค์ด้วยความยินดีเช่นกัน”
2. การแบ่งปันในพระวรสาร คือ “บรรทัดฐาน” ความยุติธรรมในสังคม
พระสันตะปาปาเปรียบเทียบว่า ในสมัยพระเยซู มีคนจำนวนมากที่ “หิวโหยทางกาย” เพราะขาดแคลนอาหาร แต่ในโลกปัจจุบันของเรา ปัญหามันเปลี่ยนไป ทุกวันนี้มีคนจำนวนมากที่ต้องทุกข์ทรมาน ไม่ใช่เพราะโลกนี้ไม่มีอาหารเพียงพอ แต่เป็นเพราะ “ความโลภของคนส่วนน้อย” ที่กอบโกยและสะสมความมั่งคั่งไว้กับตัวเองมากเกินไป
การที่ “คนรวยจำนวนน้อยนิด กลับรวยขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่คนส่วนใหญ่ยังคงยากจนข้นแค้น” มันคือสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึง “ความเฉยเมยอย่างน่ารังเกียจ” ซึ่งเป็นต้นเหตุของความเจ็บปวดและความอยุติธรรมในสังคมของเรา
พระสันตะปาปาย้ำว่า แบบอย่างการแบ่งปันของพระเจ้าคือ “บรรทัดฐาน” ที่เราต้องนำมาปรับใช้ในชีวิต โดยเฉพาะในปีศักดิ์สิทธิ์
3. ศีลมหาสนิท: การประทับอยู่จริงที่เปลี่ยนแปลงเราให้เป็นหนึ่งเดียว
ช่วงท้าย พระสันตะปาปาได้เน้นย้ำถึงคำสอนของศาสนจักรเกี่ยวกับศีลมหาสนิทว่าไม่ใช่เป็นเพียงสัญลักษณ์ แต่คือ “การประทับอยู่อย่างแท้จริง เป็นจริง และเป็นแก่นสาร” ของพระผู้ไถ่
“ศีลมหาสนิทไม่เพียงเปลี่ยนแปลงปังและเหล้าองุ่นให้เป็นพระกายและพระโลหิตของพระคริสต์ แต่ยังเปลี่ยนแปลงเราให้เป็นพระองค์ด้วย ทำให้ศาสนจักรกลายเป็นพระกายของพระคริสต์ ซึ่งเป็นเอกภาพที่แสดงออกและสำเร็จลงในศีลศักดิ์สิทธิ์” พระสันตะปาปา แบ่งปัน
หลังมิสซาจบลง พระสันตะปาปาทรงนำแห่ศีลมหาสนิท โดยขบวนแห่เริ่มจากมหาวิหารซานโจวานนี่ อิน ลาเตราโน่ ไปสิ้นสุดที่มหาวิหารซานตา มารีอา มาจจอเร่
ทั้งนี้ เมื่อพิธีสิ้นสุดลง พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 ได้ไปภาวนาหน้าหลุมศพของพระสันตะปาปา ฟรานซิส โอกาสที่ครบ 2 เดือนแห่งการสิ้นพระชนม์ด้วย
#โป๊บเลโอที่14
ขอบคุณข้อมูลจาก:เพจPopereport