โฆษกกองทัพบกชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีกิจกรรมนักปั่นจักรยานเยี่ยมชมพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม และกรณีการปิดจุดผ่อนปรนทางการค้าช่องสายตะกู
วันนี้ (22 มิ.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา จากการที่กระทรวงกลาโหมกัมพูชาออกแถลงการณ์แสดงความกังวล กรณีเจ้าหน้าที่ทหารไทยนำคณะนักปั่นจักรยานเข้าเยี่ยมชมบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ก่อนเวลาเปิดทำการ โดยอ้างว่าไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้านั้น
จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับหน่วยทหารที่รับผิดชอบพื้นที่ พบว่า เป็นกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ จัดโดยสำนักการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ภายใต้ชื่อว่า “ปั่น 2 ปราสาท สัมผัสทุเรียนเมืองช้าง @พนมดงรัก 2025” ซึ่งในช่วงเช้าของวันที่ 22 มิถุนายน 2568 เวลา ประมาณ 07.30 น. คณะนักปั่นจักรยานประมาณ 150 คน ออกเดินทางจากตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก มุ่งหน้าสู่บริเวณปราสาทตาเมือนธม และมีการแวะเยี่ยมชมสถานที่ซึ่งเป็นไปตามแผนกิจกรรมที่ได้วางไว้
ทั้งนี้ ในวันที่ 21 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันก่อนหน้ากิจกรรม มีการประสานล่วงหน้าโดยชุดประสานงานปราสาทตาเมือนธมของฝ่ายไทย ไปยังชุดประสานงานของฝ่ายกัมพูชาแล้วว่า จะมีกิจกรรมปั่นจักรยานเข้ามาในช่วงเช้า ซึ่งในระหว่างการจัดกิจกรรม ฝ่ายกัมพูชาได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดประสานงานเข้ามาสังเกตการณ์ที่บริเวณปราสาทตามปกติ และเมื่อเสร็จสิ้นการเยี่ยมชมบริเวณปราสาทตาเมือนธมแล้ว คณะนักปั่นฯ ได้เดินทางต่อไปยังปราสาทตาควายตามกำหนดการ และตลอดระยะเวลาไม่ปรากฏว่าฝ่ายกัมพูชามีการคัดค้าน หรือแสดงความไม่พอใจ แต่อย่างใด
โฆษกกองทัพบกย้ำว่า ปราสาทตาเมือนธม ตั้งอยู่ในเขตราชอาณาจักรไทย และมีการประสานงานของเจ้าหน้าที่ตามขั้นตอน และไม่มีการละเมิดข้อตกลงใด ๆ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า อาจเกิดจากความคลาดเคลื่อนในการสื่อสารภายในระหว่างหน่วยงานทหารของกัมพูชากับรัฐบาลกลางของตนเอง จนนำไปสู่ความเข้าใจคลาดเคลื่อนในเหตุการณ์นี้
ในส่วนของประเด็นการปิดจุดผ่อนปรนทางการค้าช่องสายตะกู โฆษกกองทัพบกได้ชี้แจงว่า เป็นมาตรการที่หน่วยทหารในพื้นที่ได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้วว่า มีความจำเป็นต้องดำเนินการ โดยอาศัยการประเมินภาพรวมของสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่ รวมถึงยังคงพบท่าทีของทหารฝ่ายกัมพูชา ในการเพิ่มกำลังทหารและยุทโธปกรณ์บริเวณแนวชายแดนหลายจุด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่โดยรอบ
ทั้งนี้ เป็นมาตรการที่ตามนโยบายของรัฐบาล และสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) ซึ่งเป็นกลไกความร่วมมือหลักของฝ่ายไทยในการบริหารจัดการสถานการณ์ชายแดนอย่างรอบด้านและมีเอกภาพ
.........................................
ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก โดยทีมโฆษกกองทัพบก, 22 มิถุนายน 2568