ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ ชี้ รัฐบาลทรัมป์ มีอำนาจส่งทหาร คุมเหตุประท้วงใน LA

          รอยเตอร์ รายงานว่า ศาลอุทธรณ์ในนครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนียสหรัฐฯ มีคำสั่งชี้ขาดให้รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ มีอำนาจส่งกำลังทหารจากกองกำลังพิทักษ์ชาติ ที่ประจำอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ไปร่วมทำงานกับตำรวจท้องถิ่นในนครลอสแอนเจลิส(LA) เพื่อควบคุม เหตุประท้วงคัดค้าน การปราบปรามผู้ลักลอบเข้าเมืองได้ชั่วคราว ระหว่างที่คดียังอยู่ในการพิจารณาของศาล โดยศาลอุทธรณ์ ระบุเหตุผลว่า กฏหมายสหรัฐฯให้อำนาจประธานาธิบดีส่งกำลังทหารเข้าไปควบคุมสถานการณ์ได้ในกรณีที่ตำรวจท้องถิ่นไม่อาจจะควบคุมเหตุความไม่สงบในท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

          นอกจากนั้น รัฐบาลทรัมป์ได้แจ้งเรื่องนี้ไปยังผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยชอบตามขั้นตอนการใช้กำลังทหารและถึงแม้ว่ารัฐบาลทรัมป์จะไม่ประสานงานมาอย่างถูกต้องก็ตาม แต่ผู้ว่าการรัฐก็ไม่มีอำนาจจะยับยั้งคำสั่งจากประธานาธิบดี พร้อมทั้งมีคำสั่งให้ระงับคำสั่งเดิมของนายชาร์ลส เบรเยอร์ ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ระบุว่า การที่รัฐบาลทรัมป์ส่งให้ทหารเข้ามาช่วยตำรวจท้องถิ่นเพื่อควบคุมเหตุประท้วง เป็นการใช้อำนาจที่มิชอบด้วยกฏหมาย และให้คืนอำนาจควบคุมสั่งการเรื่องนี้ให้กับนายกาวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย

          นักวิเคราะห์ระบุว่า การที่นายทรัมป์ มีคำสั่งให้ส่งทหารเข้าไปทำงานร่วมกับตำรวจในการจับกุมผู้ประท้วง ที่ LA ทำให้เกิดประเด็นถกเถียงทั่วประเทศว่า เป็นการใช้อำนาจที่ชอบด้วยกฏหมาย และรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ หรือไม่

          ทั้งนี้ กฏหมายของสหรัฐฯ เปิดโอกาสให้ประธานาธิบดี มีอำนาจส่งกำลังทหารไปทำงานกับตำรวจเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในประเทศใน 3 กรณีคือ กรณีข้าศึกรุกราน, กรณีเกิดเหตุกบฎ หรือเสี่ยงเกิดเหตุกบฏเพื่อโค่นล้มรัฐบาล และกรณีที่ตำรวจ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการรักษาความสงบเรียบร้อยในประเทศไม่อาจจะควบคุมความสงบเรียบร้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

#ศาลสหรัฐ

#คดีส่งทหารคุมเหตุประท้วง