หลังอิสราเอลโจมตีอิหร่านเมื่อเช้ามืดของวันศุกร์ที่แล้ว(13 มิ.ย.) พร้อมทั้งสั่งปิดน่านฟ้า ห้ามเครื่องบินโดยสารบินเข้า-ออกจากอิสราเอล ทำให้ผู้โดยสารชาวอิสราเอลกว่า 100,000 คนตกค้างอยู่ในสนามบินต่างๆในต่างแดน หนังสือพิมพ์ไทม์ออฟอิสราเอล รายงานอ้างนายชมูเอล ซาไก อธิบดีกรมการบินพลเรือนของอิสราเอลว่า สายการบินอิสราเอล เช่น เอ็ลอัล (El Al), อาร์เคีย(Arkia)และ อิสแรร์ (Israir)ได้รับไฟเขียวจากกระทรวงคมนาคมและสำนักงานการบินพลเรือนของอิสราเอลเมื่อวานนี้(17 มิ.ย.) ให้เริ่มทยอยจัดส่งเครื่องบินไปลำเลียงผู้โดยสารชาวอิสราเอลที่ติดค้างอยู่ในต่างแดน กลับประเทศ เริ่มตั้งแต่วันนี้(18 มิ.ย.)
อธิบดีกรมการบินพลเรือนของอิสราเอล เปิดเผยว่า อิสราเอลจะอนุญาตให้เครื่องบินในโครงการนี้บินเข้ามายังน่านฟ้าอิสราเอลได้ไม่เกิน 2 เที่ยวต่อชั่วโมง และจะอนุญาตให้ทำการบินเข้ามายังอิสราเอลได้เฉพาะในเวลากลางวัน เนื่องจากการบินช่วงกลางคืนเสี่ยงถูกโจมตีจากอิหร่าน พร้อมคาดว่า อาจจะใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าสายการบินต่างๆของอิสราเอลจะลำเลียงผู้โดยสารที่ตกค้างในต่างแดนกลับบ้านทุกคน
สำหรับสายการบิน เอ็ลอัล สายการบินแห่งชาติของอิสราเอล จะส่งเครื่องบินไปยังสนามบินเมืองลาร์นากา ไซปรัส,กรุงเอเธนส์ กรีซ, กรุงโรมและเมืองมิลาน อิตาลีและกรุงปารีส ฝรั่งเศส เพื่อลำเลียงผู้โดยสารชาวอิสราเอลกลับประเทศ โดยผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเครื่องบินจากสายการบินเอ็ลอัล หรือ ผู้โดยสารคนอื่นๆที่ได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลอิสราเอลปิดน่านฟ้าอิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว มีสิทธิ์จะแจ้งความประสงค์กับสายการบิน เพื่อนั่งเครื่องบินลับประเทศโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม พร้อมแนะให้ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเครื่องบินแล้วให้เก็บตั๋วบินไว้เพื่อนำมายื่นกับสายการบินต่างๆเพื่อขอเงินคืน ตามหลักเกณฑ์ทางกฎหมายของอิสราเอล
#อิสราเอล
#โครงการจัดเครื่องบิน
#ขนผู้โดยสารกลับประเทศ