ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส แสดงความเห็นต่างจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯในประเด็นเกี่ยวกับอิหร่าน คัดค้านการใช้ปฏิบัติการทางทหารที่รุนแรงกับอิหร่าน หวังจะผลักดันไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบอบปกครอง โดยผู้นำฝรั่งเศสเตือนว่า การเปลี่ยนแปลงระบอบปกครองด้วยวิธีทางทหารอาจจะนำไปสู่เหตุวุ่นวายทางการเมืองในอิหร่าน อีกทั้งอาจจะเกิดภาวะไร้ความมั่นคงในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อิรักและเลบานอน และเสี่ยงกระทบต่อเสถียรภาพและความมั่นคงทั่วทั้งภูมิภาค
นายมาครงย้ำถึงความจำเป็นในการใช้วิธีการเจรจาทางการทูต เพื่อควบคุมโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านแทนการใช้กำลังทหาร โดยนายมาครงแสดงความเห็นเรื่องนี้ หลังจากนายทรัมป์โพสต์ข้อความทางสื่อออนไลน์ Truth Social เมื่อวานนี้(17 มิ.ย.)เรียกร้องให้อิหร่านยอมยกเลิกโครงการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมอย่างไม่มีเงื่อนไข พร้อมขู่โจมตีอิหร่าน เตือนว่า ความอดทนของสหรัฐฯเริ่มลดลงเรื่อยๆหลังเจรจากันมาแล้ว 5 รอบ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ขณะที่สงครามระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านย่างเข้าสู่วันที่ 6 แล้วในวันนี้(18 มิ.ย.)
ด้านอิสราเอลระบุถึงสาเหตุที่กองกำลังป้องกันอิสราเอล(IDF)เปิดฉากโจมตีอิหร่านเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว(13 มิ.ย.) ว่ามุ่งเพื่อสกัดกั้นอิหร่านไม่ให้เดินหน้าโครงการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ แต่อิหร่านปฏิเสธว่าไม่เคยมีแนวคิดที่จะผลิตอาวุธนิวเคลียร์ พร้อมทั้งยืนกรานว่า โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านมุ่งใช้ในทางสันติ
#ท่าทีฝรั่งเศส
#โครงการนิวเคลียร์อิหร่าน
#สงครามอิสราเอล
ที่มา: reuters