พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้จัดการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชาที่ห้องประชุมวิจิตรวาทการ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล
ศูนย์เฉพาะกิจสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา (ศก.ทก) ประกอบไปด้วย
1.รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้อำนวยการศูนย์
2.เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นรองผู้อำนวยการศูนย์ (1)
3.ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นรองผู้อำนวยการศูนย์ (2)
4.ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นรองผู้อำนวยการศูนย์ (3)
โดยมีปลัดกระทรวงและหัวหน้าหน่วยงานหลายหน่วยเป็นกรรมการ อาทิ ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ฯลฯ ตลอดจนผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ อธิบดีกรมสารนิเทศ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และเจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร เป็นต้น
การประชุมครั้งแรกของคณะกรรมการชุดนี้ มีเป้าหมายเพื่อรับทราบแนวทางการดำเนินงานของแต่ละหน่วยงาน โดยได้รับความร่วมมือจากผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
รมช.กลาโหมได้เน้นย้ำในที่ประชุมว่าการบริหารสถานการณ์จำเป็นต้องหาข้อสรุปได้ภายในวันเดียวกัน เพื่อให้สามารถดำเนินการแก้ไขได้อย่างทันท่วงที โดยมีเป้าหมายให้นำข้อสรุปไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ได้มีการกำหนดรูปแบบการประชุมทุกวันในเวลา 09.30 น. ยกเว้นวันอังคารที่มีภารกิจประชุมคณะรัฐมนตรี จึงจะปรับการประชุมเป็นในช่วงเวลา 13.30 น. ซึ่งภายหลังการประชุมจะมีการแถลงข่าว ที่ตึกนารีสโมสร และจะมีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์ NBT
ที่ประชุมยังได้กำหนดกรอบการทำงานของศูนย์เฉพาะกิจฯ คือ การบูรณาการและขับเคลื่อนงานระยะสั้น ติดตามและให้ข้อเสนอแนะและสนับสนุนงานระยะยาว
โดยระยะสั้นจะมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ส่วนระยะยาว จะเป็นการบูรณาการ ขับเคลื่อน สนับสนุน การหารือภายใต้กรอบความร่วมมือต่าง ๆ ให้ดำเนินการต่อไปได้
และย้ำว่าศูนย์เฉพาะกิจฯ แห่งนี้ไม่ใช่ศูนย์อำนวยการหรือมีอำนาจสั่งการหน่วยงานต่าง ๆ แต่เป็นเวทีหารือแบบโต๊ะกลม มีหน้าที่ในการติดตาม เสนอแนะ และสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมย้ำว่าการดำเนินงานของศูนย์เฉพาะกิจฯ จะเป็นลักษณะ ‘หารือเพื่อหาข้อยุติร่วมกัน’
ศูนย์เฉพาะกิจฯ จะทำหน้าที่ประสานงานระหว่างรัฐบาลกับภาคส่วนต่าง ๆ สำหรับกรณีที่มีปัญหาในการขนส่งสินค้าของไทยไปยังกัมพูชา เบื้องต้นได้มีการประสานกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อขอรับซื้อผลผลิตจากประชาชนในพื้นที่ชายแดน และในอนาคตจะมีการขอความร่วมมือจากภาคส่วนอื่น ๆ เข้าร่วมรับซื้อ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนพี่น้องประชาชน
ขอยืนยันว่ารัฐบาลไทยจะไม่ใช้มาตรการตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน และจะหลีกเลี่ยงไม่ให้มาตรการใด ๆ ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดน รัฐบาลไทยยังคงยึดมั่นในการให้ความสำคัญกับพี่น้องประชาชนทั้งสองประเทศเป็นสำคัญ
#ประชุมศกทก