การมอบรางวัลอาสาตาจราจร พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา/หัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ , พล.ต.ต.สุทธิพงศ์ แจ้งอริยวงศ์ รองผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ , พล.ต.ต.สหัสสชัย โลจายะ ผู้บังคับการกองแผนงานความมั่นคง , พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง , พ.ต.อ.ณัฐพงศ์ เชื้อเดช รองผู้บังคับการตำรวจจราจร และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ , คุณพงศ์พันธ์ ประภาศิริลักษณ์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) , สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.91 , สถานีวิทยุ จส.100 และ พล.ต.ท.อนันต์ ศรีหิรัญ อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ/คณะกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินและความปลอดภัยทางถนน วุฒิสภา ร่วมแถลงผลการขับเคลื่อนโครงการ “อาสาตาจราจร” ซึ่งเป็นการดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยยังคงมอบเงินรางวัลให้กับเจ้าของคลิปกล้องหน้ารถที่บันทึกอุบัติเหตุทางถนนหรือการกระทำผิดกฎจราจรที่เป็นเหตุการณ์สำคัญ ที่สามารถใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี หรือเป็นคลิปที่เป็นอุทาหรณ์สำคัญที่จะช่วยให้ประชาชนเกิดการตระหนักรู้ในการขับขี่ตามกฎจราจร
โดยงานวันนี้มีการมอบรางวัลให้กับคลิปที่ได้รับการคัดเลือกประจำเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 2568 รวม 20 รางวัล เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 100,000 บาท โดยบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้สนับสนุน ณ ห้องสารสิน อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.ท.สำราญฯ กล่าวว่า คลิปที่ประชาชนส่งมา เป็นส่วนสำคัญที่จะใช้เป็นพยานหลักฐานในการติดตามตัวผู้ขับขี่ที่เป็นผู้กระทำผิด ตลอดจนเป็นพยานหลักฐานในชั้นศาล หากไม่มีคลิปเหล่านี้ การจะชี้ว่าฝ่ายไหนเป็นผู้ทำผิดกฎจราจรอาจจะพิสูจน์ลำบาก แต่คลิปที่ประชาชนส่งมาทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าผู้ใดเป็นผู้ฝ่าฝืนกฎจราจร เช่น คลิปที่ได้รับรางวัล 1 ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568 กรณีเกิดอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 17.05 น. บริเวณหน้าตลาดยิ่งเจริญ ถนนพหลโยธิน กรุงเทพมหานคร จากกรณีรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถยนต์ ขณะเดียวกันผู้ขับขี่รถยนต์ลงมาจากรถเปิดประตูจนทำให้รถจักรยานยนต์ที่วิ่งตามหลังมาหักหลบ ทำให้เสียหลักจนเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนอีกหลายคัน
จากเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อเกิดอุบัติเหตุลักษณะนี้ ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องเพิ่มความระมัดระวังรู้จักสังเกตเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัว เมื่อพบว่าด้านหน้ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นให้ชะลอรถ และไม่สมควรขับรถเข้าไปใกล้จุดเกิดเหตุหรือหยุดเพื่อดูเหตุการณ์ ทั้งนี้ ขอขอบคุณพลเมืองที่เร่งเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบเหตุได้ทันท่วงที
ด้าน นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันนอกจากการบังคับใช้กฎหมายแล้ว มาตรการ Social Sanction เป็นอีกมาตรการหนึ่งที่ช่วยสร้างการตระหนักให้ผู้ใช้ทางปฏิบัติตามกฎจราจร เพราะหากฝ่าฝืนกฎหมายเมื่อใด จะมีตาจราจรคอยบันทึกเหตุการณ์ นอกจากส่งไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีแล้ว ยังอาจมีคลิปปรากฏในสื่อโซเชียลได้อีก ดังนั้น จะทำให้เกิดความยับยั้งไม่ทำผิดกฎจราจร และยืนยันพร้อมขับเคลื่อนโครงการนี้ต่อไปเป็นปีที่ 4 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ที่จะช่วยกันสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน
นอกจากโครงการ “อาสาตาจราจร” แล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังได้ดำเนินการ “โครงการถนนปลอดภัย” ซึ่งกำหนดให้ทุกกองบังคับการ/ตำรวจภูธรจังหวัด เลือกถนนหน่วยละ 1 เส้นทาง เพื่อเป็นถนนสำหรับการรณรงค์ด้านความปลอดภัยให้ผู้ใช้รถใช้ทางปฏิบัติตามกฎหมายจราจร 100 % โดยเฉพาะการสวมหมวกนิรภัย ซึ่งถนนในโครงการนี้มีทั้งหมด 94 เส้นทาง ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วนช่วยกันรณรงค์และปฏิบัติตามกฎหมายจราจรในถนนเส้นดังกล่าว โดยเฉพาะข้อหาความผิดเน้นหนัก ได้แก่ ดื่มแล้วต้องไม่ขับ รัดเข็มขัด สวมหมวกนิรภัย ปฏิบัติตามสัญญาณไฟ และขับรถตามความเร็วที่กฎหมายกำหนด เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุและสร้าง ความปลอดภัยบนท้องถนนร่วมกัน
สำหรับโครงการนี้มุ่งหวังให้ผู้ประชาชนช่วยกันสร้างวัฒนธรรมการขับขี่ปลอดภัย สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วมกิจกรรม สามารถส่งคลิปมายังช่องทางเพจอาสาตาจราจร , เพจตำรวจทางหลวง , เพจกองบังคับการตำรวจจราจร รวมถึงเพจเครือข่ายที่ร่วมโครงการ ทั้งเพจมูลนิธิเมาไม่ขับ , สวพ.91 และ จส.100 โดยคลิปที่มีเนื้อหาน่าสนใจผ่านการคัดเลือก นอกจากได้รับเงินรางวัลแล้ว ยังได้รับใบประกาศเกียรติคุณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะพลเมืองดี ช่วยส่งพยานหลักฐานเพื่อช่วยคนดีชี้คนผิด เป็นส่วนหนึ่งในการลดอุบัติเหตุทางถนน
#อาสาตาจราจร
#ถนนปลอดภัย
CR:กองสารนิเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ