เมืองไทยฯ (1):นายกฯเป็นประธานประชุมครม./คมนาคมเตรียมเสนอขยายเวลาลดค่าครองชีพสัปดาห์หน้า/กฟผ.ลดการระบายน้ำ

การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ติดตามว่าจะมีการพิจารณาโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ วงเงิน 3 หมื่น 6 พันล้านบาท หรือไม่

ส่วนกระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอแผนลดค่าครองชีพ ในสัปดาห์หน้า โดยให้ยืดอายุโครงการรถเมล์รถไฟฟรีอีก 6 เดือน กับให้ชะลอขึ้นราคาแท็กซี่รอบ 2 ออกไปก่อน ซึ่ง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีคมนาคม เปิดเผยว่า กำลังพิจารณาทบทวนมาตรการดูแลภาวะค่าครองชีพในภาพรวมคาดว่าในวันที่ 13 กรกฎาคมจะมีความชัดเจนมากขึ้น

ด้านนายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานกลุ่มเครือข่ายรถแท็กซี่ กล่าวว่า ผู้ประกอบการแท็กซี่เคยเสนอตัวเลขต้นทุนแท้จริงให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา เพื่อขอปรับขึ้นค่าโดยสารร้อยละ 20 แต่คมนาคมให้ปรับราคาขึ้นได้ร้อยละ 13 และให้ทยอยปรับขึ้นราคา 2 รอบ รอบแรกปรับขึ้นร้อยละ 8 เมื่อเดือนมกราคมส่วนการปรับขึ้นราคารอบที่ 2 อยู่ระหว่างการพิจารณา อย่างไรก็ตาม นายวิฑูรย์ กล่าวว่า หากไม่ให้ปรับราคาก็จะเกิดปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสารอีก

กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมกลุ่มนักศึกษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่จำนวน 14 คนตามหมายจับศาลทหารกรุงเทพ ซึ่งเมื่อวานนี้พนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ สอบสวนนักศึกษาทั้ง 14 คนแล้ว และในวันนี้จะครบกำหนดฝากขังผัด 2

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่าการยื่นเรื่องขอให้ปล่อยตัวเป็นเรื่องของความมั่นคง ฝ่ายความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ทหารจะต้องดำเนินการ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมจะปฏิบัติการตามคำสั่งของรัฐบาล ส่วนเรื่องที่องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนส่งหนังสือมาถึงให้ปล่อยตัวนักศึกษานั้น ถามว่าเวลาประเทศชาติมีปัญหา องค์กรเหล่านี้ไปไหนหมด

ส่วนความคืบหน้าของร่างรัฐธรรมนูญ นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวว่า ได้รับรายงานของคณะกรรมาธิการศึกษาแนวทางสร้างความปรองดอง สปช. ที่นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ กมธ.ยกร่างฯ เป็นประธานแล้ว และจะส่งให้วิป สปช.กำหนดวันที่จะบรรจุเข้าวาระการประชุม สปช.ใหญ่ หากที่ประชุม สปช.ได้พิจารณาแล้วเสร็จแล้ว หากไม่มีข้อติดขัดก็จะส่งให้รัฐบาลต่อไป ส่วนจะปฏิบัติตามแนวทางของคณะกรรมการปรองดองหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาล

ส่วนการประชุม กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ มีการพิจารณาในภาค 2 ผู้นำการเมืองและสถาบันการเมือง หมวด 3 รัฐสภา มาตรา 96 ซึ่งพล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษก กมธ.ยกร่างฯ เปิดเผยว่าโครงสร้างของสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จะปรับเปลี่ยนประมาณ 2-3 ประเด็นหลัก เพื่อให้การเลือกตั้งง่ายขึ้น ไม่ซับซ้อนและไม่เกิดบัตรเสีย จึงได้ตัดการเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อแบบโอเพ่นลิสต์ เป็นการให้สิทธิประชาชนในการเลือกผู้สมัครในแต่ละบัญชีรายชื่อออกไป แล้วมาใช้วิธีการหยั่งเสียงโดยสมาชิกพรรคแทนเพื่อทดแทนการเลือกตั้งแบบโอเพ่นลิสต์ และเห็นชอบให้จัดทำเป็นบัญชีรายชื่อเดียวทั้งประเทศ เช่นเดียวกับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆ มา ซึ่งเมื่อเป็นบัญชีรายชื่อเดียว จะทำให้ลดจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อลงเหลือ 150 คน จากเดิม 200 คน และไปเพิ่มจำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งเป็น 300 คน จากเดิม 250 คน โครงสร้างใหญ่ยังเหมือนเดิม คือมีจำนวน ส.ส. 450-470 คน ส่วนโครงสร้างของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จะพิจารณาได้ในวันพรุ่งนี้

สถานการณ์ภัยแล้ง นายชัยยุทธ จารุพัฒนานนท์ หัวหน้ากองจัดการทรัพยากรน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า ปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพลลงจากวันละ 8 ล้าน ลบ.ม. เหลือ 5 ล้าน ลบ.ม. ลดการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์จากวันละ 18 ล้าน ลบ.ม. เหลือวันละ 11 ล้าน ลบ.ม. เพื่อให้มีน้ำไว้กินไว้ใช้และไล่น้ำเค็มได้อย่างมั่นคง

ด้านนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรียกประชุมผู้บริหารด่วน เนื่องจากวิกฤตขณะนี้จะทำให้นาข้าว 4 ล้านไร่ เสียหายกว่าร้อยละ 80

ส่วนสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่า ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี มีเหตุถนนทรุดและเสียหาย เนื่องจากน้ำในคลองแห้งขอดจากภาวะแล้ง ทั้งในที่อ.หนองเสือ คลองหลวง อ.เมืองปทุมธานี อ.ลาดหลุมแก้ว อ.ธัญบุรี อ.ลำลูกกา รวม 88 แห่ง ซ่อมแล้ว 27 แห่ง

ซึ่ง นายวรศาสน์ อภัยพงศ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี (ทธ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า โดยปกติตามหลักวิศวกรรมสิ่งก่อสร้างใดที่สร้างคู่ขนานกับแหล่งน้ำจะมีความสมดุลตามปกติ แต่หากไม่มีน้ำในแหล่งน้ำนั้นๆ จะทำให้ไม่มีแรงดันน้ำ เมื่อเวลาผ่านไป ทำให้ไม่มีความสมดุลระหว่างถนนกับสิ่งก่อสร้าง โอกาสที่ถนนจะทรุดตัว หรือสไลด์ลงมาก็เป็นไปได้สูง

*-*