นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึง กรณีผู้นำประเทศกัมพูชาประกาศให้แรงงานกัมพูชากลับประเทศว่า แรงงานกัมพูชาทำงานอยู่ในประเทศไทยเกือบ 500,000 คน ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ประมาณ 400,000 คน และเข้ามาทำงานแบบไม่ถูกต้อง รวมถึงมีแรงงานเก็บผลไม้ตามฤดูกาลประมาณ 20,000 คนส่วนนี้จะเดินทางเข้ามาทำงานแบบเช้าไปเย็นกลับหรือหมดฤดูกาลเก็บเกี่ยวก็กลับ เช่น เข้ามาตัดอ้อย เก็บทุเรียน มังคุด ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ระยอง และตราด นี่คือกลุ่มที่รัฐบาลกัมพูชาบอกว่าจะไม่ส่งเข้ามาทำงานในประเทศไทยแล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้ฤดูกาลตัดอ้อยหมดไปแล้ว จะเริ่มอีกครั้งช่วงปลายปี รวมถึงทุเรียนก็ใกล้จะหมดฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว จึงเชื่อว่าแรงงานส่วนนี้จะไม่กระทบกับประเทศไทย
ล่าสุดได้สอบถามประธานสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย ซึ่งได้รับการยืนยันจากเจ้าของสถานประกอบกิจการ ไม่มีแรงงานชาวกัมพูชาแจ้งความประสงค์ขอกลับประเทศ
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานขอยืนยันว่า ไม่มีการผลักดันแรงงานกัมพูชากลับประเทศ แต่ถ้าสมัครใจกลับก็ยินดีและไม่ขัดขวาง ส่วนผู้ที่พาสปอร์ตหมดอายุ กรมการจัดหางานจะดำเนินการต่ออายุได้อีก 1 ปี
สำหรับแผนการรองรับการจัดหาแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศไทยนั้น พิพัฒน์กล่าวว่า กระทรวงแรงงานมีการทำ MOU แรงงานเก็บผลไม้ตามฤดูกาลเอาไว้เกือบ 200,000 คน เข้า-ออกประเทศไทยในช่วง 2-3 เดือน แต่แรงงานไป-กลับกัมพูชามีไม่เกิน 20,000 คน จึงเชื่อว่าส่วนนี้จะไม่มีปัญหาสามารถทดแทนกันได้
ขณะนี้กระทรวงแรงงานเตรียมขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว 4 สัญชาติ ประกอบด้วยเมียนมา ลาว กัมพูชา และเวียดนาม โดยมีสัดส่วนของแรงงานชาวเมียนมาจำนวนมากที่สุด ส่วนที่ยังรอ MOU และต่ออายุใบอนุญาตทำงานอีก 1.8 ล้านคน แรงงานซีไอ (Certificate of Identity: CI) ที่เข้ามาอยู่ในไทยแล้ว รอขึ้นทะเบียนและหางานทำประมาณ 1,000,000 คน เชื่อว่ามีแรงงานต่างด้าวในประเทศไทยเพียงพอต่อปริมาณความต้องการแรงงานในประเทศอย่างแน่นอน
#แรงงานกัมพูชา
Cr:กระทรวงแรงงาน