รายงานข่าวจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา ระบุว่า คณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง ชุดที่ 26 ซึ่งเป็นกรรมการร่วมระหว่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ประชุมเมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา มีมติออกหมายเพื่อเรียกตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการฮั้วสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในล็อตที่ 7 ประมาณ 20 คน ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในพรรคการเมืองดัง โดยเริ่มทยอยส่งหมายไปยังบุคคลเหล่านั้นในช่วงวันที่ 14-15 มิถุนายนที่ผ่านมา
ได้แก่ ผู้นำพรรค 2 ราย ที่เรียกกันว่า 2 น. ซึ่งต่อมานายอนุทิน ชาญวีรกูล ยอมรับว่าได้รับหมายเรียกส่งไปที่บ้านพักจ.บุรีรัมย์ รวมถึงอีก 1 น. คือ นายเนวิน ชิดชอบ ด้วย นอกจากนั้น ยังมี คณะกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยหลายราย โดยผู้อยู่ในข่าย อาทิ นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ นายธนยศ ทิมสุวรรณ นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ น.ส.บุณย์ธิดา สมชัย นายวรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ คณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เป็นต้น
น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงว่า พรรคได้ขอเลื่อนเข้าให้ปากคำต่อ กกต.ปมฮั้วเลือกสว. หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค จะขอใช้สิทธิ์ดำเนินการตามกฎหมายที่แจ้งความเท็จให้ถึงที่สุด เพื่อปกป้องสิทธิ์และรักษาเกียรติของพรรคภูมิใจไทย กรณีที่กรรมการการเลือกตั้ง โดยคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลาง คณะที่ 26 ได้เชิญหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรครับทราบข้อกล่าวหาและชี้แจง แสดงพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ทุกคนพร้อมให้ความร่วมมือชี้แจงข้อกล่าวหาตามที่ได้รับเชิญ “ขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย รวมถึงสมาชิกพรรค และ สส.ทุกคน ไม่มีส่วนร่วมในการเลือก สว.ตามที่ถูกกล่าวหา” และหัวหน้าพรรคก็เคยกล่าวถึงประเด็นนี้ในการประชุมพรรคตั้งแต่ปี 67 ว่าห้ามกรรมการบริหารพรรค และ สส.กระทำการใดๆ ที่ขัดกับ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.พ.ศ. 2561 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เป็นการแสดงเจตนารมย์ของหัวหน้าพรรค และสมาชิกทุกคนได้ปฏิบัติตามการประกาศของหัวหน้าอย่างเคร่งครัด
ส่วนการปรับคณะรัฐมนตรี มีรายงานข่าวว่า นายกรัฐมนตรีพูดถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) กับอนุทินตรงๆ ถึงการขอให้พรรคเพื่อไทยได้เข้าไปกำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย แต่อนุทินยืนยันความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่เดิม และจนสุดท้ายการพูดคุยจึงไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนเก้าอี้รัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย
#ฮั้วเลือกสว
#ภูมิใจไทย
#ปรับคณะรัฐมนตรี