กต.ชี้ กัมพูชาข้ามขั้นตอน นำเรื่องขึ้นศาลโลก

16 มิถุนายน 2568, 19:50น.


          นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมถึงผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนไทย-กัมพูชา (JBC) (16 มิถุนายน) โดยระบุว่า ไทยยึดมั่นในการใช้ ‘กลไกทวิภาคี’ เพื่อแก้ไขปัญหาเขตแดนไทย-กัมพูชา ‘ด้วยความจริงใจและด้วยความสุจริตใจ’ มาโดยตลอด พร้อมระบุว่า ฝ่ายกัมพูชา ‘ไม่ได้ตอบสนอง’ ตามข้อเรียกร้องของฝ่ายไทย และเดินหน้านำเรื่อง 4 พื้นที่พิพาทขึ้นสู่ศาลโลก หรือศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ฝ่ายไทยจึงแสดง ‘ความผิดหวังอย่างยิ่ง’ เพราะประเด็นด้านเขตแดนทั้งหมดอยู่ในขอบเขตการทำงานของ JBC ซึ่งเป็นประเด็นเชิงเทคนิค และย้ำว่า  ไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลกตั้งแต่ปี 2503 (1960) จนถึงปัจจุบัน รวมถึงระบุว่า การยื่นคำขาดต่อกันและข้อความที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดระดับประชาชนนั้นสะท้อนถึงว่ากัมพูชา ‘ขาดความตั้งใจจริง’ ในการใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ร่วมกัน บนพื้นฐานของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี



          ทางด้าน อดีตเอกอัครราชทูต (ออท.) ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธาน กมธ. JBC ฝ่ายไทย กล่าวถึงภาพรวมการประชุม JBC ครั้งที่ 6 นี้ว่า ราบรื่นที่สุด ตั้งแต่เข้าร่วมประชุมมา อธิบายขั้นตอนการทำงานของ JBC และผลการประชุมในเชิงเทคนิคว่า มีการรับรองผลการประชุมคณะอนุกรรมาธิการร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 4 เมื่อปี 2024 โดยทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันต่อตำแหน่งที่ตั้งของหลักเขตถึง 45 หลัก พร้อมทั้งเห็นชอบให้นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำภาพถ่ายทางอากาศเพื่อความรวดเร็วในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ส่วนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ 4 พื้นที่พิพาทนั้น ฝ่ายกัมพูชาจะไม่พูดถึงประเด็นนี้ในที่ประชุม



          ขณะที่นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ระบุว่า การที่กัมพูชาจะไม่นำประเด็นนี้กลับมาพิจารณาในที่ประชุม JBC อีก เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย กระบวนการตามกลไกทวิภาคี ดำเนินมากว่าครึ่งทางแล้ว หากดูจำนวนหลักเขตแดนที่ทั้งสองประเทศเห็นพ้อง พร้อมระบุว่า ตอนนี้รัฐบาลไทยยังไม่ได้รับการแจ้งอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการนำเรื่องขึ้นศาลโลก ซึ่งผู้แทนไทยได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด พร้อมเผยว่าไทยมีที่ปรึกษาเป็นทีมที่ปรึกษาด้านกฎหมายระหว่างประเทศระดับโลก ส่วนประเด็นเรื่อง MOU43 นั้น เป็นสนธิสัญญาระหว่างไทย-กัมพูชาในเรื่องของเขตแดน ซึ่งข้อ 8 กำหนดไว้ชัดเจนว่า หากมีปัญหาในการตีความหรือการบังคับใช้ MOU ให้ทั้งสองฝ่ายปรึกษาหารือหรือเจรจากันก่อน สิ่งที่เกิดขึ้นก็เลยเป็น ‘การข้ามขั้นตอน’ และถ้าเราไปดูในกฎบัตรสหประชาชาติ เราจะเห็นถึงการเน้นย้ำให้คู่กรณีพูดคุยกันก่อน รวมถึงเสนอกลไกอื่นๆ ในการแก้ไขพิพาทก่อนที่จะนำเรื่องขึ้นศาล นั่นหมายความว่า ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้แล้วจริงๆ ซึ่งปัญหาหรือข้อเท็จจริงในลักษณะนี้คือยังไม่เคยมีการพูดคุยกัน.



          อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯยังได้ทิ้งท้ายว่า เรามีกลไกทวิภาคีที่มีประสิทธิภาพ ทั้ง JBC, GBC และ RBC พร้อมเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายกลับมาใช้เครื่องมือเดิมที่มีอยู่ก่อนแล้วในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาท



ข้อมูลเพิ่มเติม https://shorturl.asia/o36eW



#ประชุมJBCครั้งที่6



Cr:กระทรวงการต่างประเทศ 

ข่าวทั้งหมด

X