อินเดียพบกล่องดำ ตัวที่ 2 ของแอร์ อินเดีย หลังเหตุเครื่องบินตกเมื่อสัปดาห์ก่อน

16 มิถุนายน 2568, 16:51น.


          จากเหตุเครื่องบินโบอิ้ง ดรีมไลเนอร์ 787-8 ของแอร์ อินเดีย เที่ยวบิน AI171 พุ่งชนอาคารพักของนักศึกษาแพทย์ที่เมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราตทางภาคตะวันตกของอินเดีย และเกิดไฟไหม้เครื่องบิน เมื่อบ่ายวันพฤหัสบดีที่แล้ว(12 มิ.ย.) เพียงไม่กี่นาที หลังบินออกจากท่าอากาศยานนานาชาติ ซาร์ดาร์ วัลลัภไภ พาเทลในเมืองอาห์เมดาบัด ขณะบินมุ่งหน้ายังสนามบินแกตวิกในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร มีผู้เสียชีวิตรวม 270 ราย ส่วนใหญ่(241 รายเป็นผู้โดยสาร) มีผู้รอดชีวิต 1 คน ส่วนผู้เสียชีวิตที่เหลือเป็นนักศึกษาแพทย์และญาติที่อยู่ในอาคารที่เกิดเหตุ



           ทีมกู้ภัยพบกล่องดำชิ้นแรกที่บรรทุกข้อมูลเที่ยวบิน(FDR)เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว(13 มิ.ย.) ซึ่งให้รายละเอียดต่างๆเช่น ระดับความสูงของการบิน ความเร็วและสมรรถนะของเครื่องยนต์ของเครื่องบิน แต่ยังไม่พบกล่องดำชิ้นที่ 2 ซึ่งต่อมา สำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางเครื่องบินของอินเดีย(AAIB)ในฐานะองค์กรหลักในการสอบสวนอุบัติเหตุเครื่องบินตกในอินเดีย เปิดเผยในวันนี้(16 มิ.ย.)ว่า ทีมสอบสวนเก็บกู้กล่องดำที่ 2 ได้แล้ว สำหรับกล่องดำชิ้นนี้ เป็นส่วนที่บันทึกข้อมูลการสนทนาในห้องนักบิน(cvr) ตลอดถึงเสียงแจ้งเตือนต่างๆ และเสียงสัญญาณแวดล้อมอื่นๆในห้องนักบิน ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่จะช่วยให้ทีมสอบสวนทราบว่า มีเหตุผิดปกติอะไรเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว



         ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ทั้งข้อมูลจาก CVR และ FDR เรียกรวมๆว่า กล่องดำของเครื่องบิน เป็นอุปกรณ์สำคัญในการสอบสวนอุบัติเหตุทางเครื่องบิน ช่วยให้ผู้สอบสวนสามารถจะปะติดปะต่อการสนทนาของนักบินในช่วงเวลาเวลาท้ายๆและชี้ชัดสาเหตุของอุบัติเหตุการตกของเครื่องบิน  การสอบสวนอุบัติเหตุครั้งนี้ AAIB ของอินเดียจะเป็นองค์กรหลักในการสอบสวน โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐฯเช่น องค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ ผู้เชี่ยวชาญจากคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ ผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทโบอิ้งและทีมผู้เชี่ยวชาญจากสหราชอาณาจักร ร่วมสอบสวนเรื่องสาเหตุของอุบัติเหตุ พร้อมทั้งจะเสนอรายงานผลสอบสวนเบื้องต้นต่อองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(ICAO)ภายใน 3 เดือน และอาจจะใช้เวลานานกว่า 12 เดือนจึงจะจัดทำรายงานฉบับเต็มเสนอต่อ ICAO พร้อมเสนอแนะขั้นตอนปฏิบัติที่เป็นมาตรฐาน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุในอนาคต



          ส่วนเรื่องการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลของศพ ที่ผ่านมา นพ.รัชนิช ปาเตล จากโรงพยาบาลซิวิคในท้องถิ่น เปิดเผยว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ทำการชันสูตรศพเสร็จแล้วกว่า 90 ราย และส่งมอบศพให้กับครอบครัวแล้ว 47 ราย  ยอมรับว่า ขั้นตอนการชันสูตรศพทำได้ล่าช้าเนื่องจากศพส่วนใหญ่อยู่ในสภาพไหม้เกรียม ต้องใช้เวลาค่อนข้างนานในการชันสูตรศพ โดยเทียบกับตัวอย่าง DNA จากญาติของผู้เสียชีวิต โดยปกติผู้เชี่ยวชาญใช้เวลาชันสูตรศพเสร็จไม่เกิน 72 ชม.



#เที่ยวบินAI171



#เก็บกู้กล่องดำ

ข่าวทั้งหมด

X