เตือนศก.เสียหาย หมื่นล้านบาท - ผลกระทบชายแดนไทยกัมพูชา

13 มิถุนายน 2568, 16:26น.


          ผลกระทบทางเศรษฐกิจหลังไทยใช้ มาตรการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า ขณะนี้คงต้องจับตาดูว่าสถานการณ์จะรุนแรงมากขึ้นหรือไม่ หลังจากที่สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกแถลงการณ์ผ่านโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะมาตรการเตรียมระงับการนำเข้าสินค้าไทยเข้าสู่ตลาดกัมพูชา รวมทั้งดึงแรงงานกัมพูชากลับประเทศ ซึ่งขณะนี้ทั้ง 2 ฝ่าย กำลังตรึงกำลังทหารตามแนวชายแดน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่จากนี้ไปคงต้องจับตาดูว่า แนวทางการแก้ไขของทั้ง 2 ประเทศ จะเป็นอย่างไร



          การปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นการปิดด่านชั่วคราว ยังไม่มีเงื่อนไขในการกีดกันการนำเข้าหรือส่งออกสินค้าระหว่างกันอย่างจริงจัง และการเปิดเส้นทางส่งออกสินค้าระหว่างกันยังคงดำเนินการอยู่ แต่ถ้าหากปิดด่าน 100% มองว่า จะเกิดความเสียหาย อาจได้เห็นความเสียหายของมูลค่าทางเศรษฐกิจหลัก 10,000 ล้านบาท ต่อเดือนแน่นอน ขณะนี้ประเมินว่า การจำกัดการข้ามแดนไทย-กัมพูชา จะกระทบการส่งออกไทยเพียง 5-10% และยังไม่กระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม กระทบแค่เศรษฐกิจในพื้นที่มากกว่า แต่ยังต้องประเมินสถานการณ์ต่อไป ว่าจะรุนแรง และยืดเยื้อแค่ไหน”



          สำหรับการค้าชายแดนของไทยและกัมพูชา พบว่า ปี 67 ไทยส่งออกประมาณ 140,000 ล้านบาท และนำเข้าประมาณ 30,000 ล้านบาท โดยด่านสำคัญที่สุดคือด่านอรัญประเทศ และด่านบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา จังหวัดสระแก้ว ซึ่งมีมูลค่าการค้ารวมกันมากกว่า 100,000 ล้านบาท โดยสินค้าที่กัมพูชานำเข้าจากไทยส่วนใหญ่นั้น เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นสินค้าจำเป็นในการดำรงชีวิต ถึงแม้ว่าจะมีสินค้าทดแทนจากเวียดนาม แต่หากดูจากระยะทางของการส่งสินค้าจากไทยจะใกล้และสะดวกกว่า รวมไปถึงค่าใช้จ่ายก็จะน้อยกว่า ขณะเดียวกันไทยนำเข้าสินค้าหลักจากกัมพูชา เป็นวัตถุดิบที่ใช้ในอุตสาหกรรมเป็นหลัก โดยเฉพาะวัตถุดิบทางการเกษตร แม้นำเข้าไม่มาก แต่เป็นมูลค่าการค้าสำคัญ



 

ข่าวทั้งหมด

X