อิสราเอลเปิดฉากโจมตีอิหร่านในช่วงเช้ามืดวันนี้ (13 มิ.ย.68) โดยมุ่งเป้าไปที่โครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธพิสัยไกล ส่งผลให้พล.อ.ฮอสเซน ซาลามี หัวหน้ากองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน (IRGC) เสียชีวิต จากนั้น นายอิสราเอล แคทซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นกรณีพิเศษ
สถานการณ์ในตะวันออกกลางมีความตึงเครียดมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่การเจรจาด้านนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านยังไม่มีความชัดเจน ทั้งมีแนวโน้มที่สงครามจะขยายวงกว้างไปทั่วทั้งภูมิภาค
นายแดนนี ดานอน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ กล่าวว่าเป็นการโจมตีเพื่อป้องกันตนเอง ก่อนที่อิหร่านจะผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้สำเร็จ
พล.ท.เอยัล ซามีร์ ประธานคณะเสนาธิการของกองกำลังป้องกันอิสราเอล ระบุว่า อิสราเอลสั่งระดมกำลังทหารหลายหมื่นนายไปยังชายแดน เพื่อเตรียมความพร้อมทำสงครามอย่างเต็มรูปแบบกับอิหร่านในระยะต่อไป ย้ำว่าอิสราเอลไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากโจมตีอิหร่าน เขากล่าวว่า ประวัติศาสตร์สอนให้รู้ว่าอิหร่านพยายามจะสร้างอาวุธนิวเคลียร์มาทำลายล้างอิสราเอล ดังนั้นอิสราเอลก็จะต้องต่อสู้เพื่อดำรงอยู่และปกป้องเสรีภาพ
สำนักงานการบินพลเรือนของอิหร่านได้แจ้งข่าวสารการบินไปถึงหน่วยงานการบินพลเรือนของประเทศต่างๆ (NOTAM) ทั่วโลกว่า อิหร่านจะปิดน่านฟ้าชั่วคราวตั้งแต่วันนี้ (13 มิ.ย.) ไปจนกว่าจะมีการประกาศฉบับใหม่ พร้อมเตือนให้หลีกเลี่ยงเดินทางไปยังสนามบินต่างๆ ในระยะนี้เนื่องจากอาจจะได้รับอันตรายจากการโจมตีของอิสราเอล
ส่วนท่าทีจากสหรัฐฯ นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐฯระบุในแถลงการณ์ว่า สหรัฐฯไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือช่วยเหลืออิสราเอลในการโจมตีอิหร่าน ย้ำว่าภารกิจสูงสูงของสหรัฐฯคือ การปกป้องพลเมืองอเมริกันและค่ายทหารอเมริกันในตะวันออกกลาง
...
#อิหร่านปิดน่านฟ้า
#อิสราเอล