นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงพัฒนาการชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ตามที่นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงการเตรียมการเข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ฝ่ายไทยครั้งที่ 2 ก่อนจะมีการประชุมที่พนมเปญ และได้มอบ 3 นโยบายในการเจรจา ได้แก่ 1.การลดความตึงเครียด และทำให้ประชาชนอยู่อย่างสงบสุข 2.การทำให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น เรื่องเส้นเขตแดน 3.การยืนหยัดที่จะปกป้องอธิปไตย
โดยย้ำว่า ไทยมุ่งมั่นใช้กลไกทวิภาคี ซึ่งเป็นกลไกที่เป็นที่ยอมรับตามหลักปฏิบัติสากล และความตกลงที่สองประเทศมีอยู่แล้ว โดยจะเป็นวิธีหาทางออกของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กลไกที่มีอยู่ได้แก่ JBC คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) เราจะใช้ทั้ง 3 กลไกนี้ควบคู่กันไปในการเจรจา และใช้บันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-กัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก(MOU) ปี 2543 ซึ่งมีอายุ 25 ปีแล้ว ถือเป็นสนธิสัญญา ที่สองฝ่ายได้ตกลงกันแล้ว และมีผลทางกฎหมาย
การประชุมJBC ที่จะเกิดขึ้นในอีก 2 วันข้างหน้าคือกลไกทวิภาคีกลไกหลัก ถือว่าเป็นเวทีหารือเรื่องเขตแดนโดนเฉพาะ จึงประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศและเส้นเขตแดน ซึ่งจัดขึ้นมาแล้ว 10 ครั้ง” นายนิกรเดช กล่าว และว่า หนึ่งในข้อกำหนดสำคัญของ MOU 2543 คือการให้ทั้งสองฝ่ายงดเว้นการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ ซึ่งหมดอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบ
คณะกรรมาธิการ JBC ของฝ่ายไทย ที่ได้รับการแต่งตั้ง ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากหลายฝ่าย นำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ส่วนฝ่ายกัมพูชา มีนายฬำ เจีย รัฐมนตรีกระทรวงกิจการชายแดนกัมพูชา เป็นหัวหน้าคณะ ไทยจะยึดมั่นผ่านกลไกทวิภาคี ขอให้ทุกคนมั่นใจว่าผู้แทนไทยจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการด้วยความเป็นมืออาชีพ โดยจะเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นตั้วตั้ง การที่กัมพูชาเชิญไทยเข้าไปประชุม แสดงว่ากัมพูชาอยู่ในกลไกอยู่แล้ว ความหมายคือกัมพูชายอมรับใน MOU 2543 ถามว่าเราตั้งใจว่าจะบรรลุผลอะไร เรามีอยู่แล้ว แต่ยังไม่สามารถพูดได้ แต่ผลอย่างหนึ่งคือ ต้องการคือลดอุณหภูมิความร้อนแรงบริเวณชายแดน ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นความหวังของกัมพูชาด้วย เพราะพูดเสมอว่าเราต้องพูดคุยด้วยความสุจริตใจ จะเป็นการลดอุณหภูมิ นั่นคือเป้าหมายที่เราไปด้วยความชัดเจนมากในเรื่องนี้
เมื่อถามว่า ถ้าวงประชุม JBC ไม่บรรลุผล จะดำเนินการอย่างไรต่อไป นายนิกรเดชกล่าวว่า ไม่เป็นปัญหา เพราะ 25 ปี ที่ผ่านมาปลดล็อกอะไรไปได้หลายอย่าง 40 กว่าหลักเขต แต่ไม่ใช่ทุกปัญหาแก้ได้ด้วยการประชุม JBC ดังนั้น การเผชิญหน้าหรือเห็นไม่ตรงกันที่ชายแดน ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ในการประชุม 1 ครั้งแล้วจบ ไม่อยากให้ตั้งความหวังว่าเจอกันที่ JBC แล้วจะลากเส้นเขตแดนได้
#ประชุมJBC
#กระทรวงการต่างประเทศแถลง