สั่งพาณิชย์จังหวัดเกาะติดการค้าชายแดน ช่วยอำนวยความสะดวกผู้ประกอบการและผู้ส่งออก

           นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้กำชับให้พาณิชย์จังหวัด ในพื้นที่ติดชายแดนไทย-กัมพูชา เช่น จันทบุรี ตราด สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ให้ลงพื้นที่ติดตามอย่างใกล้ชิดและรายงานทุกวัน เพื่อติดตามปัญหาและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการและผู้ส่งออก  ผู้ประกอบการกังวลปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชามาก โดยเฉพาะการเปิด-ปิดด่าน ขอให้ความมั่นใจผู้ประกอบการได้ว่า ตอนนี้ด่านศุลกากรยังไม่มีการปิด ยังสามารถให้บริการส่งออกสินค้าชายแดนได้

          มูลค่าการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ในปี 2567 ใน 5 ด่านการค้าสำคัญ  (ข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศ ) ได้แก่ 1.อรัญประเทศ (สระแก้ว) มีมูลค่า 110,718 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 63.4% 2.คลองใหญ่ (ตราด) มีมูลค่า 29,289 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 16.8% 3.จันทบุรี มีมูลค่า 26,621 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 15.3% 4.ช่องจอม (สุรินทร์) มีมูลค่า 6,084 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 3.5% 5.ช่องสะงำ (ศรีสะเกษ) มีมูลค่า 1,818 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 1.0% ทั้งนี้ หากรวมมูลค่าการค้าชายแดน 5 ด่าน มีมูลค่าการค้ารวมทั้งสิ้น 174,530 ล้านบาท

          ส่วนมูลค่าการค้าชายแดนในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม-เมษายน 2568) พบว่า 1.อรัญประเทศ (สระแก้ว) มีมูลค่า 40,261 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 62.3% 2.คลองใหญ่ (ตราด) มีมูลค่า 10,782 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 16.7% 3.จันทบุรี มีมูลค่า 9,998 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 15.5% 4.ช่องจอม (สุรินทร์) มีมูลค่า 2,887 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 4.5% 5.ช่องสะงำ (ศรีสะเกษ) มีมูลค่า 685 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 1.1% รวม 64,613 ล้านบาท